ตำรวจนำ “พระพรหมสิทธิ” ส่งศาลฝากขัง ค้านประกันตัว
“พระพรหมสิทธิ” มอบตัวกองปราบ ตำรวจส่งศาลฝากขัง พร้อมค้านประกันตัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศ จะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ซึ่งภายหลังกระแสข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไป ทำให้ลูกศิษย์ของ พระพรหมสิทธิ ต่างเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม โดยส่วนใหญ่เชื่อในความบริสุทธิ์ของพระพรหมสิทธิ และเชื่อว่าการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ เพราะเกรงใจที่ลูกศิษญ์ที่ต้องมาลำบาก เนื่องจากถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเข้ามอบตัวของ พระพรหมสิทธิ จนกระทั่งเวลา 11.00 น. สื่อมวลชน ได้รับรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้เดินทางไปควบคุมตัว พระพรหมสิทธิ ซึ่งยังคงจำวัดอยู่ภายในวัดสระเกศ ทั้งนี้ ภายหลังการควบคุมตัวจึงได้เชิญพระพรหมสิทธิ์ เดินทางมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด ตั้งแถวยาวเพื่อเตรียมรับตัว พระพรหมสิทธิ ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด โดยมี พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ลงมาสั่งการและควบคุมด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดสมณศักดิ์พระ และอดีตพระจำนวนหลายราย ดังนี้
- พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขโข) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
- พระพรหมเมธี (จํานงค์ เอี่ยมอินทรา) วัดสัมพันธวงศาราม
- พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) วัดสามพระยา
- พระราชอุปเสณาภรณ์ (สมณศักดิ์เดิมคือ พระเมธีสุทธิกร) (สังคม สังฆะพัฒน์) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
- พระราชกิจจาภรณ์ (สมณศักดิ์เดิมคือ พระวิจิตรธรรมาภรณ์) (เทอด วงศ์ชะอุ่ม) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
- พระอรรถกิจโสภณ (สมทรง อรรถกฤษณ์) วัดสามพระยา
- พระศรีคุณาภรณ์ (บุญทวี คํามา) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเว้นลําดับที่ 3, 5, 6 และ 7 ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกจับกุมและสละสมณเพศ
ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ปีที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พระพรหมสิทธิ ที่ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้มีการให้เหตุผลที่ยังไม่เข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ว่า ต้องการให้ผ่านวันวิสาขบูชาไปก่อน และจะขอแถลงข่าวข้อเท็จจริงบางประการในภายหลัง
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้จัดกำลังตั้งแถว เพื่อรอรับมอบตัว พระพรหมสิทธิ หรือ เจ้าคุณธงชัย เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ที่บริเวณหน้ากองปราบปราม ก็ได้มีขบวนรถอีก 1 ขบวนขับเข้ามาภายใน และอ้อมไปยังด้านหลังของอาคาร โดยพระพรหมสิทธิ หรือ เจ้าคุณธงชัย อยู่บนรถคันดังกล่าว ซึ่งได้ขับไปจอดบริเวณด้านข้างอาคาร และขึ้นไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีเงินทอนวัด เพื่อหนีหน้าสื่อมวลชน โดยใช้เวลาสอบปากคำทั้งสิ้น นานกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
จากนั้นเมื่อเวลา 15.00 น. ภายหลังสอบปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวพระพรหมสิทธิ หรือ เจ้าคุณธงชัย เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ที่ยังห่มผ้าเหลือง เดินลงมาที่ด้านหน้ากองปราบ พร้อมกับฝ่ากองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากออกไปขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดเตรียมไว้ โดยพระพรหมสิทธิ มีสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นรถตู้ ก่อนขับรถออกไป เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น เจ้าหน้าตำรวจกองปราบป ได้ตัวพระพรหมสิทธิ เดินทางมาถึงที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตฯ ข้อทุจริตฟอกเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม หรือเงินทอนวัดกว่า 150 ล้านบาท มายื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 30 พ.ค.-10 มิ.ย เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ และรอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ท้ายคำร้องทางพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่ทนายความและฆราวาสซึ่งเป็นนายประกันได้เตรียมเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท มายืนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยพระพรหมสิทธิ ถือเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ รูปที่ 6 ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน ได้ติดตามตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปวัดสระเกศฯ และวัดสามพระยา มายื่นฝากขังไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา .
สำหรับอดีตพระพรหมสิทธิ ถูกศาลอาญาออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตงบประมาณเงินอุดหนุนเผยแผ่พระพุทธศาสนากว่า 32 ล้านบาท และยังมีงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนปริยัติธรรม และเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2559 เป็นเงินกว่า 47 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการทุจริตในส่วนใดอีกหรือไม่
ส่วนพระพรหมเมธี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังหลบหนีอยู่ และเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด ขณะนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบแหล่งกบดานต่างๆ โดยเฉพาะลูกลูกศิษย์ที่มีความสนิทสนม แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด