'นายกฯภูฏาน' เข้าพบ 'ประยุทธ์' ต่างยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

'นายกฯภูฏาน' เข้าพบ 'ประยุทธ์' ต่างยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

"นายกฯ ภูฏาน" เข้าพบ "ประยุทธ์" ต่างยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทุกระดับ เห็นพ้องขยายมูลค่าการค้า ฝ่ายไทยร้องขอ ให้ดูแล นักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนด้วย

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.61 เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดาโช เชริง โตบเกย์ (H.E. Dasho Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมงานวันวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 15 ภายหลังการหารือ พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีภูฏานในนามของนายกฯและรัฐบาล พร้อมยินดีที่นายกรัฐมนตรีภูฏานเดินทางเพื่อมาเข้าร่วมงานวันวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 15 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมาพบปะกันในวันนี้ พร้อมกล่าวขอบคุณที่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จฯ เยือนไทย เพื่อทรงเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและภูฏาน ซึ่งใกล้ชิดทั้งในระดับราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชน โดยเฉพาะความเชื่อมโยงทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรม และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศจะพัฒนาไปอย่างมั่นคงต่อไป โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีภูฏานแสดงความเชื่อมั่นในพัฒนาการของประเทศไทย และขอบคุณที่ไทยที่ให้การสนับสนุนโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้วยดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการสาธารณสุข เป็นต้น

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกฯ และนายกรัฐมนตรีภูฏานได้หารือถึงความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการใช้กลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย - ภูฏาน (JTC) เพื่อหารือแนวทางในการขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น นายกฯ ชื่นชมในพัฒนาการด้านต่างๆ ของภูฏาน และกล่าวว่า ภูฏานมีศักยภาพในสาขาการท่องเที่ยวและการก่อสร้าง และยินดีที่ปัจจุบันมีการลงทุนด้านการโรงแรมของไทยในเมืองสำคัญๆ ของภูฏาน นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะบริษัทก่อสร้างของไทยมีความสนใจในการลงทุนในภูฏาน โดยรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในสาขาดังกล่าว ในการนี้ จึงขอให้ฝ่ายภูฏานช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจไทยด้วย

"สำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า เป็นสาขาที่สามารถเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายไปมาหาสู่กันอย่างสม่ำเสมอ และเสนอให้ทั้งสองฝ่ายพิจารณาส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ในลักษณะ a few countries in one destination ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน โดยเห็นว่าการท่องเที่ยวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และสามารถสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ไทยและภูฏานเห็นพ้องให้ทั้งสองประเทศแสดงบทบาทที่แข็งขันด้านความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเอเชียใต้กับอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือต่างๆ ที่ทั้งสองเป็นสมาชิก อาทิ BIMSTEC และ ACD ตลอดจนแนวคิดสถาปัตยกรรมอินโด-แปซิฟิก เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเติบโตอย่างเข้มแข็งไปด้วยกัน ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีภูฏานได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนภูฏาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีรับไปพิจารณา" พล.ท.วีรชน กล่าว