กองปราบฯ ประสานตม. ขึ้นแบล็คลิสต์พระ2 รูปไม่ให้ออกนอกประเทศ เผยหลักฐานภาพวงจรปิดบางส่วนถูกลบไป จะค้นวัดไหนอีกรอประชุมบ่ายนี้ ติงแยกแยะศรัทธา
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีการบุกเข้าตรวจค้น 3 วัดดังในกรุงเทพฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วยวัดสระเกศราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดสัมพัธวงศาราม วรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และวัดสามพระยาวรวิหาร ว่า ขณะอยู่ระหว่างการติดตามตัวพระ 2 รูปที่หลบหนีอยู่คือ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 เมื่อมีการออกหมายจับทางเจ้าหน้าที่จะการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเข้าเมืองลงรายชื่อขึ้นแบล็คลิลส์ไม่ให้ออกนอกประเทศ และมีเมื่อมีการเดินทางไปที่ไหนก็จะขึ้นว่ารายชื่อดังกล่าวมีหมายจับก็ไม่สามารถเดินทางได้ ทั้งนี้ส่วนจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศนั้นไม่สามารถระบุได้ นอกจากนี้ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้หลบหนีไปที่ประเทศสิงคโปร์แล้วนั้น ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ผบก.ป.เปิดเผยถึงกรณีที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่ามีรถกระบะสีดำมารอรับเจ้าอาวาสวัดสระเกศนั้นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนเพราะหลักฐานบางส่วนก็ได้โดนลบไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามรายละเอียดที่ว่าจะมีการเข้าค้นวัดใดเพิ่มเติม หรือจะมีการออกหมายเรียก หมายจับใครอีกหรือไม่นั้น ต้องรอความชัดเจนโดยเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.จะเป็นประธานในการประชุมดังกล่าว ที่กองบังคับการปราบปราม
พล.ต.ต.ไมตรี ระบุทิ้งท้ายว่า “ตนอยากให้แยกแยะให้ถูกพระผู้ใหญ่บางองค์มีการออกมาพูดว่าการที่ไปตรวจสอบทรัพย์สินของพระเหมือนเท่ากับเป็นการไปตรวจสอบศรัทธาของประชาชนซึ่งมันไม่ถูกต้องศรัทธาประชาชนที่เขาเอาเงินมาทำบุญนั้น เขามีความประสงค์อะไร เขานำเงินมาทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา ไม่ใช่นำเงินที่มาทำบุญใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง