ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.พลปพัฒน์ ภู่พูลทรัพย์ สว.กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1บก.ป. จับกุมตัวนายไอราพต (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1244/2560 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 2560 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้แทนการกระทำด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านคอฟฟี่ฮีโร่ ถ.รัชดาถิเษก ซ.3 แยก 3 แขวงและเขตดินแดง
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 ขณะนั้นนายไอราพต ผู้ต้องหารายนี้ยังทำงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ในตำแหน่งผู้กำกับเวที ได้ก่อเหตุฉ้อโกงนายนิพนธ์ สงวนนามสกุลช่างภาพฝ่ายผลิตของสถานีโทรทัศน์บริษัทเดียวกัน โดยออกอุบายทำทีมาขอร้องให้ผู้เสียหายช่วยเหลือทางการเงินเพื่อชำระหนี้ค่าบ้าน โดยให้เป็น ผู้กู้ร่วม เพื่อกู้ยืมเงินจากธนาคาร ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อเห็นว่าสนิทสนมกันและรู้จักกันมานาน จึงเซ็นสำเนาบัตรประชาชนให้ไปทำธุรกรรมทางการเงินแทน แต่ต่อมานายไอราพต กลับนำสำเนาเอกสารดังกล่าวไปทำการเช่าซื้อรถยนต์ รวม 6 คัน รวมถึงทำบัตรเครดิตอีกกว่า 10 ใบ และใช้ค้ำประกันเงินกู้นอกระบบอีกหลายแห่ง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จนทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมามีเจ้าหนี้นอกระบบส่งลูกน้องมาตามทวงเงินที่นายไอราพต เคยไปกู้ไว้เป็นประจำ ทั้งๆที่ตัวผู้เสียหายเองไม่รู้เรื่องหรือมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนตัวนายไอราพต หลังก่อเหตุก็ได้ลาออกจากงานและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความจนมีการออกหมายจับดังกล่าว กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายไอราพต หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายไอราพต ให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้รายละเอียดใดๆกับทางเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
