ผอ.ทรัพย์สินทางปัญญาโลก ชื่นชม 'นายกฯ' มีบทบาทสำคัญคุ้มครองปราบปราม
"ผอ.องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก" เข้าพบ "นายกฯ" ชื่นชม บทบาทคุ้มครองปราบปราม ทั้งร่วมยินดี "สนง.ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ" ปรับสถานะไทย พ้นจากประเทศต้องจับตาพิเศษ
ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำนายฟรานซิส เกอร์รี่ (Francis Gurry) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก(World Intellectual Property Organization : WIPO) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในโอกาสเยือนไทยเพื่อกล่าวสุนทรพจน์พิเศษซึ่งจัดโดยของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังการหารือ พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญการหารือว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย และยินดีที่ทราบว่าองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้เคยทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา หรือ Global Leader Award แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี 2552 นับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจของคนไทย โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในเรื่องการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของไทยในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ประเทศไทย 4.0 โดยนายกฯ กล่าวว่า ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีความเชื่อมโยงและจำเป็นต้องอาศัยความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน จึงหวังว่าองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกจะร่วมมือกับรัฐบาลในการสร้างความรู้และความเข้าใจแก่ประชาชน
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกฯ ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของรัฐบาล ด้วยการจัดทำโรดแม็พด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 รวมถึงนโยบายขับเคลื่อนประเทศสู่ประเทศไทย 4.0 โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้ชื่นชมนายกฯ ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเรื่องการคุ้มครองและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ นอกจากนั้น นายฟรานซิส เกอร์รี่ ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความหลากหลายในด้านวัฒนธรรม ประเพณี และมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นที่ดึงดูดความสนใจของนานาชาติ
"นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในปัจจุบันโลกมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม พันธุกรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใหม่ จึงขอให้องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกร่วมสร้างความเข้าใจ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาหรือข้อขัดแย้งต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้กับกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นส่วนรวม มากกว่าที่จะมองแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากเกษตรกรรมและยังคงมีผู้มีรายได้น้อยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงอยากให้องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับกลุ่มดังกล่าวจากการกำหนดแนวทางคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา" พล.ท.วีรชน กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า ในช่วงท้าย นายกฯ และผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกต่างยินดีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (Priority Watch List: PWL) เป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลไทยและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย นายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และยินดีสานต่อความร่วมมือกับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก เพื่อให้ความร่วมมือบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น