BGRIM - ซื้อ

BGRIM - ซื้อ

ร้อนแรงตลอดปี

เราคาดกำไรในปี 2561 ของ BGRIM จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เราให้คำแนะนำ โดยเราคาดเติบโตที่ 28% จากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น 283MWe (และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นเช่นกัน) ทั้งนี้ เรามองว่า BGRIM จะมีกำไรเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องอีกในครึ่งหลังปี 2561 สวนทางหุ้นโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มกำไรปรับลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโลว์ซีซั่น นอกจากนี้บริษัทยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการของเราจากแนวโน้มกำลังการผลิตที่จะเข้ามาเพิ่มและต้นทุนทางการเงินต่ำลง
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2561 ที่ 32 บาท

แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/61 ที่น่าจับตามอง...

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 1/61 ที่ 550 ล้านบาท โต 30% YoY และ 56% QoQ ปัจจัยที่หนุนให้ผลประกอบการเติบโต YoY ได้แก่ การรับรู้รายได้จาก XXHP (โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 14MWe) เต็มไตรมาส โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนก.ค. 2561 การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของ ABPR3 (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 74MWe) ในเดือนก.พ. 2561 และค่า Ft สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว (tariff รวมเพิ่มขึ้น 6.3% YoY) ขณะที่คาดกำไรขยายตัว QoQ หนุนโดยรายได้ที่สูงขึ้น จากอุปสงค์ไฟฟ้าในไตรมาส 1 ที่สูงกว่าไตรมาส 4 กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ต้นทุนทางการเงินที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นอย่างในไตรมาส 4/60

…และกำไรในไตรมาส 2/61 ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีก

เราประเมินกำไรหลักไตรมาส 2/61 ที่ 655 ล้านบาท ทะยานขึ้น 106%YoY และ 19% QoQ ทั้งนี้ปัจจัยที่หนุนให้ผลประกอบการเติบโต YoY ได้แก่ ส่วนแบ่งกำไรจาก ABPR3 (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 74MWe เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนก.พ. 2561) และ ABPR4 (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 74MWe เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนมิ.ย. 2561) ที่เพิ่มขึ้นขณะที่กำไรหลักที่ขยายตัว QoQ มีปัจจัยจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามา การรับรู้กำไรโรงไฟฟ้า ABPR3 เต็มไตรมาส และความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น

ภาพกำไรปี 2561 เติบโตแรงที่สุดในกลุ่มฯ

ในปี 2561 BGRIM จะมีกำลังการผลิตเพิ่มรวม 263 MWe ประกอบด้วย 74MWe จากโรงไฟฟ้า ABPR3 74MWe จากโรงไฟฟ้า ABPR4 74MWe จากโรงไฟฟ้า ABPR5 31MWe จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ 11MWe จากโครงการโรงไฟฟ้าน้ำแจ 1 ซึ่งโครงการเหล่านี้จะเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ BGRIM กว่า 28% เมื่อเทียบกับกำลังการผลิต ณ สิ้นปี 2560 เราคาดอัตรากำไรสุทธิที่ 7.6% ในปีนี้ ขยายตัวจาก 6.8% ในปี 2560 หนุนโดยอัตราดอกเบี้ยจ่ายเฉลี่ยลดลง และค่า Ft ที่เรามองว่าจะ
สูงขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าต้นทุนก๊าซ ด้วยปัจจัยดังกล่าว เราประเมินกำไรหลักปี 2561 ที่ 2.7 พันล้านบาท พุ่งขึ้น 74% YoY ซึ่งเติบโตแรงที่สุดในกลุ่มฯที่เราให้คำแนะนำ

มีอัพไซด์จากกำลังการผลิตที่อาจเข้ามาเพิ่มเติม และต้นทุนทางการเงินที่ถูกลง

นอกเหนือจากกำลังการผลิตใหม่ที่บริษัทมีในมือแน่นอนแล้ว ยังมีอัพไซด์ต่อ NAV ของ BGRIM จาก 1) โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ที่บริษัทฯถือหุ้น 48% (ขนาด 4 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนธ.ค. 2562) 2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในเวียดนามที่คาดจะประกาศดีลปลายปีนี้ และ 3) โอกาสในการ รีไฟแนนซ์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงหลังจากที่ TRIS ให้เรตติ้ง “A Stable” โดย BGRIM มีแผนจะรีไฟแนนซ์หนี้สินที่มีราว 17.8 พันล้านบาท ประกอบไปด้วย 6.7 พันล้าน
บาท จากโรงไฟฟ้า BIP1-2 5.6 พันล้านบาท จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอยู่ และ 5.5 พันล้านบาทจากหุ้นกู้ที่มีอยู่ ซึ่งการรีไฟแนนซ์ส่วนมากมีแผนว่าจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปี 2561