ป.ป.ช.พร้อมพิจารณา คดีเงินทอนวัดลอตสาม

ป.ป.ช.พร้อมพิจารณา คดีเงินทอนวัดลอตสาม

กรรมการ ป.ป.ช.เผย คดีเงินทอนวัดลอตสาม ปปป.ส่งมาแล้ว พร้อมพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเกี่ยวกับพระผู้ใหญ่ ระบุกฎหมายปี 2542 พระสงฆ์ อยู่ในข่ายสนับสนุนให้ทำผิด

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.61 กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สุวณา สุวรรณจูฑะ เปิดเผยกรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) รับร้องทุกข์จาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) กล่าวโทษคดีทุจริตเงินทอนวัดในพื้นที่กรุงเทพฯ มีชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ประกอบด้วย 1.พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 3.พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 4.พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ 5. พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กระทำความผิดอาญาคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ว่า พนักงานสอบสวน ปปป. ทยอยส่งสำนวนมาแล้ว ส่วนตัวเห็นว่า ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เพราะผู้ถูกกล่าวหาเป็นพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ นับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

กรรมการป.ป.ช.ท่านนี้ บอกด้วยว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย ป.ป.ช. 2542 พระสงฆ์ ไม่อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช. แต่พ.ร.ป.ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีการแก้ไขให้พระสงฆ์ อยู่ในอำนาจการพิจารณาของ ป.ป.ช.

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้ถ้าพระสงฆ์ ร่วมกับอดีตผอ.พศ. จะถือว่าเป็นการทำผิดร่วมกัน อยู่ในอำนาจป.ป.ช. หรือไม่ นางสุวณา บอกว่า ถือว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด

สำหรับคดีเงินทอนวัด ในปี 2560 ปปป.ส่งสำนวนให้ และป.ป.ช.รับเรื่องเองมีทั้งสิ้น 97 คดี มีการชี้มูลความผิดข้าราชการและคนทั่วไป ลอตแรก 4 ราย ลอตที่สอง 9 ราย ในจำนวนนี้ส่งให้อัยการสูงสุด ฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว 9 ราย