ผู้การกองปราบฯ หอบหลักฐานคลิปเสียง "ฟ้า" คดีหวย 30 ล้าน แจ้งความ ปอท. ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้หน่วยงานต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 เม.ย.2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการอาคารบี ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พร้อมคณะทำงานคลี่คลายคดีล็อตเตอรี่ 30 ล้านบาทได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด พร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.กนกพรรณ หมวกสไว อายุ 36 ปี หรือฟ้า เพื่อนสาวคนสนิทของพี่สาวครูปรีชา ใคร่ครวญ ในคดีหวยอลเวง 30 ล้าน หลังปรากฏคลิปเสียงทางโลกออนไลน์ ซึ่งมีการกล่าวหาว่าตำรวจกองปราบรับสินบนเพื่อช่วยเหลือคดีนี้ โดยมีพ.ต.อ.ธนดล แก้วอุบล รอง ผบก.ปอท. , พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก 3 บก.ปอท. , ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เป็นผู้มารับเรื่อง
พล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.กนกพรรณ หรือฟ้า ตามที่มีคลิปเสียงปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ ตนได้ฟังคลิปเสียงฉบับเต็มทั้งหมดแล้ว มีส่วนหนึ่งที่พาดพิงมาถึงหน่วยงานของตนคือ กองบังคับการปราบปราม เมื่อพิจารณาแล้วเป็นการพาดพิงที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ตนในฐานะผู้นำองค์กรจึงออกมาปกป้องหน่วยงาน เพื่อกำเนินคดีกับคนที่มาพูดจาแล้วทำให้องค์กรเสียหาย บรรพบุรุษของกองปราบ ผู้การหลายๆ ท่าน ที่ผ่านมา สร้างคุณงามความดีมาตลอด กองปราบฯ เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน แต่ต้องมาถูกบางคนนำมาพูดให้เกิดความเสียหาย
“ผมในฐานะผู้นำของหน่วยในปัจจุบัน ผมยอมไม่ได้ หากพาดพิงถึงชื่อผม “ไมตรี” ผมไม่ว่า เพราะว่า ผบช.ก.ได้เน้นย้ำตลอดว่า ตำรวจสอบสวนกลางทุกคนต้องไม่เป็นคู่ขัดแย้ง และไม่เป็นคู่กรณีกับใคร แต่กรณีนี้มาพาดพิงถึงองค์กรถึงหน่วยงาน ผมจึงต้องออกมาดำเนินการ ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้งใคร หรือทำตามใบสั่ง หรือคำแนะนำของใครทั้งสิ้น ผมมาในนามของกองปราบ โดยผมเป็นผู้นำ” พล.ต.ต.ไมตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.กนกพรรณ และนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน ไปถอนฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้มีการเจราจาต่อรองถอนฟ้องกับใครทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นการทำงานของกองปราบที่ตรงไปตรงมา เบื้องต้นวันนี้จะแจ้งดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับ น.ส.กนกพรรณบุคคลเดียวเท่านั้น
ด้านพ.ต.อ.ธนดล เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ว่าจะสอบปากคำบุคคลใดเพิ่มหรือไม่ ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ต้องพิจารณาจากหลักฐานที่ทางกองบังคับการปราบปรามได้นำคลิปเสียง และพยานบุคคลมามอบให้ในวันนี้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบหลักฐานที่นำมามอบให้ละเอียด ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อหาใดต่อไป