ทีมวิจัยม.เษตร แจ้งเอาผิด 'พ.อ.' ทัพบก

ทีมวิจัยม.เษตร แจ้งเอาผิด 'พ.อ.' ทัพบก

ทีมวิจัยหน้ากากป้องกันสารพิษม.เกษตร แจ้งเอาผิด “พ.อ.” ทัพบก ปลอมใบรับรองโครงการ

จากกรณีข้อพิพาทโครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษ วงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการ 3.8 ล้านบาท ของทางกองทัพบก ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดี 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นคดีที่ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก แจ้งความเอาผิดกับ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ทีมงานวิจัยโครงการดังกล่าว

หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อพิรุธในการออกใบรับรองมาตรฐานงานวิจัยดังกล่าว อีกส่วนหนึ่งเป็นคดีที่ รศ.ดร.วีรชัย และเจ้าหน้าที่ทีมงานวิจัยแจ้งความเอาผิดกับ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ ในข้อหา “แจ้งความเท็จ” และ “เรียกรับเงินสินบน”

ซึ่งทั้ง 2 สำนวนขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯได้รวบรวมส่งต่อให้กับทาง ปปช. ดำเนินการต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในอำนาจหน้าที่ของทาง ปปช.ในการเป็นผู้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไขยเดช ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร หนูทอง รอง ผกก.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายทหารยศ พ.อ. รายหนึ่ง สังกัดกองทัพบก ในข้อหา ปลอมแปลงเอกสาร โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารใบรับรองงานวิจัยมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางด้าน พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่มีการกล่าวหากับทางทีมวิจัยว่าใช้ใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หน้ากากป้องกันสารพิษปลอม นั้น ตนขอชี้แจงในส่วนนี้ว่าเอกสารใบรับรองดังกล่าวเป็นคนละใบกับที่ตนได้จัดทำขึ้น โดยใบรับรองที่ทางกองทัพบกกล่าวหาว่าปลอมนั้นเป็นใบรับรองที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งในสังกัดกองทัพบก ยศ พ.อ. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทางกองทัพบกส่งให้มาอยู่ร่วมในทีมวิจัยของตนเป็นผู้จัดทำขึ้น ไม่เกี่ยวกับตน ในวันนี้ตนจึงได้นำหลักฐานมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายทหารยศ พ.อ. ผู้นี้ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนยังได้รับหนังสือจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. เพื่อให้ทำการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว โดยมีกำหนดการให้ทำการชี้แจงรายละเอียดก่อนวันที่ 23 มี.ค. ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดระยะเวลาในการรวบรวมหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริง ถึงมีเวลาให้ค่อนข้างกระชั้นชิดขนาดนี้ แต่เพราะด้วยตนได้มีการรวบรวมหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้จึงทำให้สามารถส่งรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงกับทาง สตง.ได้ทัน

นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ในวันที่ 29 มี.ค. ตนจะทำการยื่นเรื่องให้ทาง สตง.ทำการตรวจสอบโครงการต่างๆของทาง กองทัพบก ดูบ้าง และจะจับตาดูว่าทาง สตง.จะดำเนินการตรวจสอบโครงการต่างๆของทางกองทัพบก โดยใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณีของตนหรือไม่