รองนายกฯ ยอมรับไม่ยื่นตีความ เลือกตั้งส.ส. ถือเป็นความเสี่ยง

รองนายกฯ ยอมรับไม่ยื่นตีความ เลือกตั้งส.ส. ถือเป็นความเสี่ยง

“วิษณุ” ยอมรับไม่ยื่นตีความรธน. เลือกตั้งส.ส. ถือเป็นความเสี่ยง ปัดตอบข้อดี-ข้อเสีย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เตรียมส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ยืนยันให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ยังไม่ดำเนินการว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีแนวทางแก้ไขเพราะยังไม่มีการหารือกับรัฐบาล เป็นการหารือกันในสนช.เท่านั้น ยังไม่ส่งมาที่รัฐบาลทั้งฉบับ ฉะนั้นรัฐบาลจะไปแก้ไขไม่ได้ หากต้องการปรึกษารัฐบาลก็ยินดีร่วมหารือ ส่วนกรณีที่กรธ.ต้องการให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเองนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ หากมีกฎหมายลูกส่งมาที่รัฐบาล นายกฯก็มีอำนาจที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อกฎหมายมาถึงรัฐบาล นายกฯจะมีเวลา 5 วันเพื่อรอว่าจะมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ โดยส.ส.อาจเป็นผู้ยื่นก็ได้ แต่เมื่อครบ 5 วัน หากไม่มีผู้ใดยื่นศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ภายใน 20 วัน แต่หากไม่ยื่นก็ต้องทูลเกล้าฯถวายเพื่อให้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็ไม่สามารถยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้จนกว่าจะมีคดีเกิดขึ้น จึงจะร้องเรียนผ่านศาลซึ่งประเด็นดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยง

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า. ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาล กรธ. และสภาฯทำงานอยู่กับข้อกฎหมายย่อมทราบขั้นตอน ระยะเวลาการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเรื่องใดควรใช้เวลาเท่าใดซึ่งเรื่องที่ต้องสืบพยานจะใช้ระยะเวลานาน ส่วนเรื่องที่เป็นข้อกฎหมายใช้เวลาไม่นาน จึงคาดว่าอาจทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.ต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก แต่ก็ไม่นานนัก เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นข้อกฎหมาย ทั้งนี้หากสนช.ต้องการให้ ครม.พิจารณาก็ควรเร่งดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่ขอตอบว่าการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร ขอให้สอบถามกับทาง กรธ.เนื่องจากกรธ.เป็นเจ้าของเรื่อง

“ตอนนี้เนื้อไม่ได้หนังไม่รองนั่ง อย่าเพิ่งเอากระดูกมาแขวนคอ แต่จำเป็นต้องแขวนก็จะแขวน ตอนนี้อย่าเพิ่งสมมุติกันไปก่อน “นายวิษณุ กล่าว