ลุ้นสิ้นปีนี้เอไอ-แมชชีนเลิร์นนิงบูมไทย

ลุ้นสิ้นปีนี้เอไอ-แมชชีนเลิร์นนิงบูมไทย

“เดลิเทค” ประเมินภายในสิ้นปี 2561 เทคโนโลยีเอไอ-แมนชีนเลิร์นนิงบูมในตลาดประเทศไทย ผนึก “เอดับบลิวเอส” ช่วยลูกค้าธุรกิจค้าปลีก การเงิน อีคอมเมิร์ซ พัฒนาโครงการต้นแบบปูทางการใช้งานจริง มั่นใจตลาดเปิดรับ ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้รวมเติบโตไม่น้อยกว่า 200%

นายวิชญ์ เนียรนาทตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลิเทค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กระแสการลงทุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) และแมชชีนเลิร์นนิงในตลาดประเทศไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน คาดว่าภายในสิ้นปี 2561 นี้จะได้เห็นการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ดี ขณะนี้เป็นช่วงของการทดสอบระบบและพัฒนาเพื่อนำไปใช้งานในอนาคตอันใกล้(พีโอซี) โดยโครงการที่ลูกค้าสนใจมีทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ระบบแนะนำสินค้า ดาต้าอนาไลติกส์ การตลาดออนไลน์ และที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าปลีกทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์

สำหรับอุตสาหกรรมที่ตื่นตัวอย่างมากประกอบด้วยค้าปลีก การเงินการธนาคาร และอีคอมเมิร์ซ เบื้องต้นงบการลงทุนที่ใช้ไม่จำเป็นต้องมากเพียงหลักหมื่นบาทหรือแสนบาทก็เป็นไปได้

ส่วนของเดลิเทคในฐานะบริษัทผู้ให้บริการติดตั้งระบบไอที(เอสไอ) และพันธมิตรผู้ให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์ของบริษัทอเมซอน เว็บ เซอร์วิส(เอดับบลิวเอส) ในเครือยักษ์อีคอมเมิร์ซอเมซอน อย่างเป็นทางการในไทยพบว่า ลูกค้าทุกรายให้ความสนใจและได้เข้าไปให้คำปรึกษาเตรียมความพร้อมด้านไอทีอินฟราสตรักเจอร์และคลาวด์

เขากล่าวว่า แนวทางการทำตลาดจะเน้นการให้คำปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อม ที่ผ่านมาการลงทุนของลูกค้าจะเป็นไปตามโจทย์ธุรกิจของรายนั้นๆ กลุ่มเป้าหมายหลักโฟกัสตั้งแต่องค์กรขนาดเล็กไปถึงใหญ่ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน มีลูกค้าที่เริ่มลงทุนเอไอและแมชชีนเลิร์นนิงแล้ว 6 ราย และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในภาพรวมบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้รายได้รวมจะเติบโตได้ถึง 200% มูลค่าแตะ 100 ล้านบาท สัดส่วนจากเอไอและแมชชีนเลิร์นนิงราว 25-30% 

“ผมมั่นใจว่าตลาดจะเปิดรับเป็นอย่างดี ด้วยประโยชน์ที่จะได้รับทั้งเชิงการลดต้นทุน การเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดีขึ้น การเพิ่มยอดได้ถึง 50% อีกด้านพบว่าภาพรวมการลงทุนไอทีในประเทศไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้ตามการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ธุรกิจองค์กรมองไอทีเป็นส่วนประกอบสำคัญ ไม่มีคำถามว่าจะลงทุนดีไหม แต่มองไปถึงว่าจะลงทุนเพื่ออะไร นำไปใช้ในส่วนงานใดได้บ้าง”

ข้อมูลโดยเอดับบลิวเอสระบุว่า ประโยชน์ที่เอไอและแมชชีนเลิร์นนิงสามารถให้กับธุรกิจได้ชัดเจนคือ การทำงานแบบอัตโนมัติ ประมวลผลเรียลไทม์ สามารถปรับสเกลการทำงานได้ตามต้องการ สำคัญนำไปใช้ปรับปรุงคุณภาพและลดต้นทุนได้จริง

นอกจากนี้ ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกค้านำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีอยู่มาใช้และใช้ได้ประโยชน์มากขึ้น อีกทางหนึ่งด้านการคิดค้น จากรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องค่อยเป็นค่อยไปกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่เอดับบลิวเอสให้บริการกับลูกค้ามีอยู่กว่า 1,400 ฟีเจอร์ ครอบคลุมบริการด้านแอพพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม รวมถึงเฟรมเวิร์กและอินเทอร์เฟซสำหรับวงการแมชชีนเลิร์นนิง