‘สุวิทย์’ติดเครื่องบิ๊กร็อค ส่งวิทย์แก้จน-สร้างคน

‘สุวิทย์’ติดเครื่องบิ๊กร็อค  ส่งวิทย์แก้จน-สร้างคน

คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบ 3,292.38 ล้านบาทให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ดำเนินโครงการบิ๊กร็อค (Big Rock) ผ่าน 14 โครงการ 3 นโยบายหลัก “วิทย์สร้างคน-วิทย์แก้จน-วิทย์เสริมแกร่ง” มุ่งส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ

เริ่มเดินเครื่อง มี.ค.2561

“วิทย์แก้จนจะเป็นหัวใจแผนการระยะสั้น เน้นให้ประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อน วท.จะเป็นหน่วยสนับสนุน ยกตัวอย่าง โครงการโอทอปที่หลายหน่วยงานเคยทำไว้มากมาย แต่สะเปะสะปะ เหมือนการยิงที่ไม่ตรงเป้า ก็จะมีโครงการยกระดับโอทอปใน 10 จังหวัดยากจน และโครงการ 1 ตำบล 1 นวัตกรรมเกษตร มาช่วยสร้างความเข้มแข็งในระยะสั้น” นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว

นายสุวิทย์มอบหมายให้ นายวีระพงษ์ แพสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นประธานคณะทำงาน และคณะกรรมการย่อย 3 กลุ่ม ซึ่งทุกเดือนจะมีการรายงานผลเพื่อตอบโจทย์สำคัญ 2 ส่วนคือ ความโปร่งใสและความรวดเร็วในการทำงานที่ต้องทำให้ทันภายใน ก.ย. นี้

ยกระดับโอทอป 10 จว.ยากจน

โครงการยกระดับโอทอปฯ งบประมาณ 439.98 ล้านบาท จะดำเนินการร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบสินค้าโอทอปใน 10 จังหวัดยากจน คือ แม่ฮ่องสอน กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ น่าน นครพนม นราธิวาส ปัตตานี ชัยนาท ตาก และอำนาจเจริญ ว่ามีสินค้าตัวใดที่จะยกระดับโดยใช้ วทน. เข้าไปช่วย เพื่อให้สินค้าสามารถวางขายหรือโชว์ในประเทศและต่างประเทศได้ อีกทั้งได้ประสานไปที่บริษัทประชารัฐรักสามัคคี เพื่อหาตลาดให้ผู้ประกอบการ ถือเป็นการโฟกัสที่รวดเร็วและตรงจุด

ขณะที่โครงการ 1 ตำบล 1 นวัตกรรมเกษตร งบประมาณ 88 ล้านบาท ตอบโจทย์เกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หรือเป็นฐานรากของปิรามิด จะต้องเปลี่ยนให้เป็นเกษตรกรยุคใหม่โดยใช้ วทน. เข้าไปช่วยในภาคการผลิตหรือภาคการเกษตรให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะเปลี่ยนเกษตรกร 4 หมื่นราย และกลุ่มเกษตรกร 2,000 กลุ่มให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ (สมาร์ทฟาร์มเมอร์)

“เราไม่จำเป็นต้องทิ้งการเกษตรแบบเดิมที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาช่วย เพียงแต่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะเข้าไปต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยใช้หลักการของ วทน. เพื่อสร้างนวัตกรรมให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

สำหรับ “วิทย์สร้างคน” นายสุวิทย์ กล่าวว่า จะสร้างคนรุ่นใหม่ในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นอาชีพในอนาคต ผ่านโครงการคาราวานวิทยาศาสตร์สายอาชีพ (งบ 47.36 ล้านบาท) และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ภูมิภาค (งบ 102.5 ล้านบาท) เพื่อที่จะทำให้คนรุ่นใหม่รู้ว่าในอนาคตอันใกล้ ควรจะเรียนอะไร ไปทำอาชีพอะไร ถึงจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่กำลังจะก้าวไปสู่สังคม 4.0

นอกจากนี้จะมีโครงการจัดการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์ (งบ 50 ล้านบาท) โครงการโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม (งบ 189.5 ล้านบาท) ที่จะไปสร้างในโรงเรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศอีก 150 แห่ง เพื่อสร้างพื้นที่ให้นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าไปใช้พื้นที่และอุปกรณ์เครื่องมือทางวิศวกรรม เพื่อยกระดับฝีมือ ความชำนาญ ความรู้ความเข้าใจหรือเป็นนวัตกร

“ไบโอแบงก์”รวบทรัพยากรชีวภาพ

ขณะที่ “วิทย์เสริมแกร่ง” จะเป็นโครงการที่เป็นของใหม่ของประเทศ คือ การจัดตั้งธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (งบ 760 ล้านบาท) จะเป็นโครงการที่คนไทยมีความภูมิใจในความเป็นชาติที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรชีวภาพสูงเป็นอันดับต้นของโลก

พร้อมกันนี้ยังจัดตั้งโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร ด้วยงบประมาณ 169.5 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแห่งแรกของประเทศ โดยจะมีความพร้อมให้บริการด้านเครื่องมือการผลิต วิเคราะห์ ทดสอบ และรับรองมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารได้มาใช้ประโยชน์ ซึ่งจะเป็นการยกระดับให้ผู้ประกอบการอาหารสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

“ผมตั้งความหวังให้โครงการบิ๊กร็อคนี้จะเป็นหัวเชื้อในการขับเคลื่อน วทน. สู่จุดหมาย ตอบโจทย์นโยบาย 3 ส่วนทั้ง “วิทย์สร้างคน” “วิทย์แก้จน”และ “วิทย์เสริมแกร่ง” พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับการบริหารจัดการงบประมาณเชื่อมโยงปี 2561-2562 และเริ่มเดินหน้าหารืองบบิ๊กร็อกล็อตที่ 2 ที่จะครอบคลุมเรื่องใหญ่ๆ 7-8 เรื่อง อาทิ ดาวเทียม 2 ดวง, โครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ (NQI), เทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นและพลาสม่า เป็นต้น”

จากเดิมที่เคยปิดทองหลังพระ คราวนี้ “สุวิทย์” พร้อมที่จะเดินหน้าลุยงานใน 14 โครงการอย่างแข็งขัน ทั้งอ้าแขนรับการทำงานข้ามกระทรวง และความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน