มูลนิธิสืบฯแถลงจี้4ข้อ จ่อร้องผบ.ตร.เปลี่ยนทีมทำคดี 'เปรมชัย'

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ทวงถามความคืบหน้าคดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร หลังครบเวลา 1 เดือน แต่การสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อนายเปรมชัยกับพวก ดำเนินไปอย่างล่าช้า หากยังไม่มีความคืบหน้าเตรียมเข้าพบ ผบ.ตร. ขอเปลี่ยนตัวคนทำสำนวน

นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร แถลงว่า จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน ในพื้นที่ที่ไม่อนุญาตตั้งแคมป์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุน จนวันนี้ผ่านมาครบระยะ 1 เดือนแล้วแต่การสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อนายเปรมชัย กับพวกกลับดำเนินไปอย่างล่าช้าในสายตาของสาธารณชน ทางมูลนิธิจึงขอแถลงการณ์ คือ

1 เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดี พบข้อเท็จจริงว่านายเปรมชัย และพวกลักลอบนำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในรถก่อนเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ลักลอบตั้งแคมป์ในเส้นทางและบริเวณที่ไม่ได้รับอนุญาต ซากสัตว์ป่า ร่องรอยกระสุนบนซากสัตว์ป่า และซากกระดูกในลำห้วย การประกอบอาหารจากเนื้อสัตว์ป่า ล้วนเป็นพยานวัตถุสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ยืนยันว่านายเปรมชัยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดสำเร็จ ฐานล่าสัตว์ป่า

2 คดีนี้ไม่ใช่คดีที่มีความซับซ้อนจึงขอเร่งรัดให้ฝ่ายที่ดูแลและรับผิดชอบการดำเนินคดีโดยเฉพาะตำรวจ เร่งรัดดำเนินการเพื่อสรุปสำนวนพร้อมความเห็นไปยังอัยการและส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็ว และอย่าเบี่ยงเบนประเด็นการสอบสวนโดยการมุ่งไปสู่การเสาะหาพยานวัตถุที่อาจเปลี่ยนแปลงได้

3 ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่ดรัดติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด ตรวจสอบสำนวนคดีในชั้นอัยการอย่างรอบคอบก่องส่งฟ้องศาลเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนไปจากพฤติการณ์แห่งคดีที่ปรากฎ

และ 4 ข้อให้รัฐบาล หน่วยงานของภาครัฐออกมายืนเคียงข้างประชาชน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ร่วมกันประณามผู้ที่มีเจตนาในการทำร้ายสิ่งแวดล้อม

นายศศิน บอกด้วยว่า หลังจากเตรียมทำเรื่อง ขอเข้าพบกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา เพื่อขอความมั่นใจในการดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวก ซึ่งหาการดำเนินคดียังล่าช้าต่อไป ทางมูลนิธิ ขอเสนอให้เปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่รับผิดชอบสำนวนคดี หรือมากไปกว่านั้นคือ ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI รับไว้เป็นคดีเศษ