“ฮิตาชิ”ส่งไอโอทีเจาะอุตฯโรงงาน

“ฮิตาชิ”ส่งไอโอทีเจาะอุตฯโรงงาน

-วางกรอบ3เฟสดำเนินงานในอีอีซี

ฮิตาชิลงนามเอ็มโอยูกับสำนักงานอีอีซีพร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาเทคโนโลยี ล่าสุดส่ง“ลูมาด้า”โซลูชั่นไอโอทีครบวงจรเพื่อกลุ่มลูกค้าโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม พร้อมวางกรอบงาน 3 เฟสเสร็จใน 3 ปี

นายยาสุโอะ มิซึทานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอเชีย (ประเทศไทย) กล่าวว่า เนื่องจากตลาดในอาเซียนยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ประเทศไทยยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำหรับฮิตาชิและเป็นฐานการดำเนินงานที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ซึ่งฮิตาชิเองโฟกัสในเซ็กเตอร์ของอุตสาหกรรม ระบบรถไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ธุรกิจสารสนเทศและโทรคมนาคม และที่ผ่านมาเองฮิตาชิได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล องค์ความรู้ที่จะใช้อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) และพัฒนาความพร้อมในการพัฒนาเชิงนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมในโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี)

โดยเบื้องต้นฮิตาชิจะนำเอาโซลูชั่นไอโอทีในชื่อ “ลูมาด้า” ที่เคยเปิดให้บริการในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และจีนมาให้บริการแก่ลูกค้าโรงงานในไทย โดยจะนำร่องโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งมีโรงงานอยู่ 800 โรง โดย 2 ใน 3 เป็นโรงงานญี่ปุ่นและมากกว่าครึ่งเป็นลูกค้าของฮิตาชิด้วย ซึ่งลูมาด้าเองจะเป็นแพลตฟอร์มไอโอทีเพื่อเปลี่ยนโรงงานเป็น 4.0 (สมาร์ท แฟคเตอรี่) ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าว จะมาช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์โซลูชั่นด้านดิจิทัลร่วมกันกับคู่ค้า (ดิจิทัล โค-ครีเอชั่น) เพื่อพัฒนาความสามารถในการดำเนินธุรกิจในหลายสาขา ซึ่งฮิตาชิหวังว่าจะเข้ามามีบทบาทในการผลักดันประเทศเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0

“เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมให้กับลูกค้าเพื่อทรายฟอร์มธุรกิจให้อยู่รอดในยุค 4.0 และเราไม่ได้ต้องการจะมาขายแต่ผลิตภัณฑ์ แต่จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้า และคู่ค้า” นายมิซึทานิ ระบุ

นอกจากนี้ จากเอ็มโอยูร่วมกับสกรศ.นั้น ฮิตาชิวางกรอบการทำงานไว้ 3 เฟสและคาดว่าจะเสร็จครบทุกเฟสใน 3 ปี โดยแบ่งเป็น เฟสแรกจะเริ่มในเดือนเม.ย.ฮิตาชิจะเข้าไปวางระบบไอซีทีโซลูชั่นเชื่อมต่ออุปกรณ์ในโรงงาน เฟสสองจะวางระบบขนส่ง โลจิสติกส์และเชื่อมโรงงานแต่ละแห่งเข้าด้วยกัน และเฟสสุดท้าย จะนำระบบที่วางรากฐานกับลูกค้าโรงงานแล้วเชื่อมต่อกับภาครัฐและภาคประชาชน ซึ่งจะทำให้การพัฒนาทุกส่วนครบวงจรมากยิ่งขึ้น

สำหรับปีนี้ ฮิตาชิตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำทางนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ในส่วนของไอโอทีตามที่ได้ร่างไว้ในแผนบริหารกลางปีประจำปี 2561 ความสำคัญของภารกิจนี้ ก็คือการพัฒนาและการขยายธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมของฮิตาชิ ซึ่งจะก่อให้เกิดมูลค่าใหม่ๆ จากการสร้างสรรค์ร่วมกันกับลูกค้า อีกทั้งบริษัท ฮิตาชิ คอนซัลติ้ง ได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบ การบริการเมืองอัจฉริยะให้กับโครงการ One Bangkok และยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกับไปรษณีย์ไทยในการสนับสนุน บริการไปรษณีย์แบบดิจิทัลด้วย