สแน็กปลานิล วิจัยเพิ่มค่าของตกเกรด

“สแน็กปลานิล” ในระบบสุญญากาศ ไร้กลิ่นคาวปลายืดอายุได้นานผลิตภัณฑ์ที่แบ็คอัพด้วยองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัย หลังจากนักธุรกิจส่งออกปลาแช่แข็งมองเห็นความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิล

การเลี้ยงปลานิลในประเทศต้องเผชิญปัญหาราคาอาหารสำเร็จรูปที่ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงสูง ขณะเดียวกันปลานิลขนาดเล็กจะถูกตัดราคาจนต้องขายในราคาถูกให้กับผู้ที่ต้องการนำไปทำเป็นปลาร้า ปลาเจ่า ทั้งที่ต้นทุนสูงถึง 30-40 บาท ส่งผลให้ “ธนัญชย์ ธนทวี” เกิดแนวคิดในการนำปลานิลขนาดเล็กที่ถูกคัดทิ้งมาแปรรูปเป็นขนมปลานิลเพื่อสุขภาพ

แก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยี

ธนัญชย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ภูผาฟาร์ม จำกัด มองหาองค์ความรู้ที่จะเปลี่ยนความต้องการให้เป็นสินค้าในมือผู้บริโภค กระทั่งได้รู้จักนักวิจัยเทคโนโลยีการทอดแบบระบบสุญญากาศจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

การทอดแบบระบบสุญญากาศ เป็นกระบวนการทอดที่ใช้อุณหภูมิต่ำ ทำให้เนื้อปลานิลยังคงคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงเนื้อสด และผลิตภัณฑ์ที่ได้หลังการทอดมีปริมาณไขมันต่ำ อายุเก็บรักษาได้นาน 1 ปี ปราศจากกลิ่นคาว ที่สำคัญคือการทอดแบบสุญญากาศ ไม่ได้ใช้น้ำมันทอดจึงตอบโจทย์คนรักสุขภาพภายใต้แบรนด์ มิสเตอร์ไพน์ (Mr.PINE)

จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่า เหตุผลหนึ่งที่ไม่นิยมรับประทานปลา เพราะขั้นตอนการแล่และล้างทำความสะอาดยุ่งยาก ทั้งยังมีกลิ่นคาว เมื่อนำมาทอดจะเหลือเนื้อปลาน้อย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพยายามพัฒนาปลานิลให้เป็นสแน็กที่รับประทานง่าย มีโปรตีนสูง พลังงานต่ำเพียง 130 กิโลแคลอรี่ เหมาะกับคนรักสุขภาพ อีกทั้งสามารถทำเป็นกับข้าวได้ด้วย โดยสแน็กปลานิล 1 ถุง น้ำหนัก 25 กรัม ผลิตจากเนื้อปลา 1 กิโลกรัม

เป้าหมายของมิสเตอร์ไพน์คือ อยากให้ทุกคนได้รับประทานโปรตีนราคาถูก เข้าถึงง่าย รวมทั้งจะขยายตลาดส่งออกไปสหรัฐอเมริกา ยุโรปรวมทั้งจีนพร้อมกันนี้ได้พัฒนาเครื่องทอดกรอบแบบสุญญากาศขึ้นใช้เอง ทดแทนเครื่องที่มีในตลาดซึ่งมีราคาแพงจึงต้องการพัฒนาเครื่องขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงได้