อยู่จนได้คำตอบ? ม็อบต้าน รง.ไฟฟ้าถ่านหินปักหลักยาว

อยู่จนได้คำตอบ? ม็อบต้าน รง.ไฟฟ้าถ่านหินปักหลักยาว

ม็อบเทพา-กระบี่ บุกทำเนียบ อังคารนี้! จี้ รบ.ยุติโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน บริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เครือข่ายคนสงขลา - ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ยังคงปักหลักชุมนุมอย่างสงบอย่างต่อเนื่อง ในเวลา 09.00 - 09.30 น. นั่งส่งใจให้รัฐบาลมีสำนึกสิ่งแวดล้อม ซึ่งในวันนี้ยังคงมีคนอดอาหารจำนวน 69 คน และทางกลุ่มได้เชิญชวนให้ประชาชนที่ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจ มาร่วมอดอาหารเป็นเวลา 9 ชั่วโมง มาเพิ่มอดอาหารร่วมอีก 1 คนในช่วงเช้า

นายมัธยม ชายเต็ม ตัวแทนเครือข่าย ฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว ที่เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จังหวัดกระบี่ ที่มานั่งอดอาหาร เพื่อให้รัฐบาลประกาศยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน จนถึงปัจจุบันเรายังไม่ได้รับคำตอบจากทางรัฐบาล เราขอยืนยันว่าเราจะนั่งอยู่ต่อ จนกว่าจะมีประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า ทางรัฐบาลยุติการสร้างแบบไฟฟ้าถ่านหินทั้ง 2 แห่งหรือไม่ ซึ่งในวันอังคาร (20 ก.พ.2561)นี้มีการประชุมครม. พวกเราจะไปนั่งอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีคำตอบให้กับพวกเรา


ด้าน นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ ตัวแทนเครือข่าย ฯกล่าวว่า การที่พี่น้องประชาชนออกมาอดอาหารเพื่อไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานั้น ไม่ใช่เป็นประโยชน์เฉพาะชาวเทพา แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทย และโลกของเรา ถ้าย้อนกลับไปในการประชุมของยูเอ็น ได้ฝากท่านนายกรัฐมนตรีไว้ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้เซ็นสัญญาในกรุงปารีส 2 เรื่อง 1.ในเรื่องของการลดโลกร้อน ซึ่งถ้าหากเราติดตามจะพบว่าทำไมทั้งโลก ได้เชิญชวนให้มาใช้พลังงาน หมุนเวียน เป็นที่ชัดเจนว่ามีความก้าวหน้าในโลก เพราะพลังงานหมุนเวียนสามารถแข่งขันกับแรงงาน ถ่านหินได้ ในมิติที่ยูเอ็นพูดคุย

นายธรพจน์ กล่าวว่า โดยมีโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับทางยูเอ็น ในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ การดูแลรักษาระบบนิเวศทางทะเล และในเรื่องอื่นๆโดยเฉพาะในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งแน่นอนว่าบริบทหนึ่ง ของรัฐบาลคือการดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติ สิ่งที่คนกระบี่-เทพา ออกมาปกป้อง ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล รัฐบาลยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะใช้ อำนาจทางกฎหมายออกมาไล่คนที่ออกมาปกป้องทรัพยากร

“ ผมขอตั้งคำถามว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้รักษาหน้าที่ของท่าน ในการออกมาปกป้อง ทรัพยากรทางธรรมชาติหรือไม่ ท่านกำลังให้คนไทย ทำหน้าที่แทนท่านหรือเปล่า มิติในวันนี้คนกระบี่-เทพา กำลังออกมาทำหน้าที่แทนคนไทย ที่เราชวนท่านลุกขึ้นมาดูทรัพยากรฯมลพิษที่ปกคลุมกรุงเทพมหานครเมื่อหลายวันก่อน เป็นตัวสะท้อนกลับต่อโครงการพัฒนาในแนวทางของรัฐบาล ที่จะให้คนไทยทั้งประเทศ เป็นไปตามนั้น เรามาดูคุณภาพอากาศของกรุงเทพ ในวันนี้ดีกว่าสภาพอากาศที่แม่เมาะ จังหวัดลำปาง เราเปรียบเทียบได้จากวันนี้ที่ แม่เมาะ มีรถยนต์ไม่เท่ากับทางกรุงเทพแต่มีมลพิษมากกว่า ทั้งๆที่ไม่มีปัญหาในเรื่องการเผาขยะ หรือควันมลพิษรถยนต์ ก็น้อยกว่า ไม่มีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษนอกจากโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ก่อให้เกิดมลพิษ”นายธีรพจน์ กล่าว

นายธีรพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลอ้างว่า วันนี้มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถดูแลผลกระทบมลพิษจากถ่านหินได้มันคือคำโกหกที่ชัดเจน นี่คือสาเหตุที่รัฐบาล ไม่ใช่ค่ามลพิษที่พีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษที่ทั่วโลกเลือก ใช้กันในการที่จะยืนยันคุณภาพของอากาศ รัฐบาลกลับเลือกใช้ค่ามลพิษที่ขนาด พีเอ็ม 10 ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบกับสตรีมีครรภ์และเด็กที่ต้องสูดดม มลพิษที่มีค่าความเสี่ยง ที่เป็นมะเร็ง เข้าไป ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศจะพบว่าพื้นที่ภาคใต้ เพียงแห่งเดียวที่มลพิษทางอากาศยังไม่กระทบ ยังเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยทางอากาศอยู่ นายกรัฐมนตรีจะเลือกให้ทั้วประเทศเป็นมลพิษเช่นนั้นหรือไม่