ภาพสะท้อนของโลก “5จี” ตัวพลิกตลาดจากภาวะอิ่มตัว

ภาพสะท้อนของโลก “5จี” ตัวพลิกตลาดจากภาวะอิ่มตัว

สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศญี่ปุ่น โดยการสนับสนุนของภาคเอกชน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดการสัมมนาประจำปี 2561 เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5จี

โดยมีผู้บริหารของเอ็นทีที โดโคโมะ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี การปรับตัวของอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่ยุค 5จี ซึ่งจะเป็นตัวพลิกโฉมอุตสาหกรรมการสื่อสารซึ่งเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว

ปัจจุบันทิศทางของรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปลี่ยนไปมาก จากเดิมรายได้หลักมาจากการโทรออกรับสายในยุค 2จี และเปลี่ยนมาเป็นรายได้จากการรับส่งดาต้า ในยุค 3จี และ 4จี ตามลำดับ แต่แนวโน้มจำนวนคนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นช้าลงกว่าเดิม และทิศทางรายรับรวมเริ่มเป็นขาลง ดังนั้น จึงเปลี่ยนมาสู่การเพิ่มบริการอื่นๆ ทั้งการให้บริการทางการเงิน การให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) กับลูกค้าองค์กร การให้บริการสนับสนุนข้อมูลสุขภาพ การให้บริการอุปกรณ์โทรคมนาคม เป็นต้น

ไอโอทีผลลัพท์ของ5จี

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช. ทิศทางหลักของการให้บริการในยุค 5จี จึงต้องมุ่งไปที่การสร้างพันธมิตร สร้างความร่วมมือกับธุรกิจอื่นๆ หรือแม้แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ สำหรับธุรกิจและสังคม รูปแบบความสัมพันธ์ทางธุรกิจก็จะเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นบีทูซี (บิสซิเนส ทู คอนซูเมอร์) หรือ บีทูบี (บิสซิเนส ทู บิสซิเนส) เป็น บีทูบีทูซี หรือแม้แต่ บีทูบีทูจี (กอฟเวอร์เมนต์) เป็นต้น ในปัจจุบัน เอ็นทีที โดโคโมะ มีพันธมิตรแล้ว 394 องค์กรและจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ

สิ่งที่ขับเคลื่อนความสัมพันธ์นี้คือ “ข้อมูล” ในยุคไอโอทีอุปกรณ์หลักคือตัวเซ็นเซอร์ ที่คอยตรวจวัดข้อมูลที่ต้องการ เช่น คุณภาพน้ำ คุณภาพอากาศ หรือตรวจวัดสิ่งอื่นๆ แล้วส่งข้อมูลมาประมวลผล นอกจากจะแจ้งผลการประมวลไปที่ปลายทาง ซึ่งอาจจะเป็นเกษตรกร ผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือองค์กรพันธมิตรแล้ว ระบบนิเวศนี้ยังทำให้เรามีบิ๊กดาต้าซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดได้อีกมากมาย

แต่เดิม ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นลักษณะการสมัครบริการที่มีอายุตามสัญญาใช้บริการ เมื่อเลิกสัญญาจำนวนลูกค้าก็ลดลง และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ได้อีกต่อไป ต่างจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นอี-คอมเมิร์ซ หรือ โซเชี่ยล เน็ตเวิร์กต่างๆ กับสมาชิกของตน ที่แม้จะหยุดการใช้งาน แต่ถ้ายังไม่แจ้งออกจากการเป็นสมาชิก ก็ยังนับเป็นลูกค้าอยู่ จำนวนสมาชิกจึงมีทิศทางเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ในภาพรวมได้

วิเคราะห์ลูกค้าจากการใช้

เอ็นทีที โดโคโมะ จึงเปลี่ยนแนวคิดจากลูกค้าทั่วไป มาเป็นสมาชิก และได้พัฒนาระบบบัญชีสมาชิก เพื่อเป็นระบบนิเวศใหม่ของธุรกิจองค์กรพันธมิตรก็จะได้ประโยชน์จากระบบนิเวศนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อสมาชิกจะใช้บริการอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นบริการทางการเงินหรือบริการรายการบันเทิงหรือบริการอื่นๆ ก็ยังทำผ่านระบบสมาชิกนี้ จึงมีการเก็บรวบรวมข้อมูลสมาชิกในด้านต่างๆ ไว้ และสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อที่จะได้เสนอหรือพัฒนาบริการให้เหมาะสมยิ่งขึ้นไป จึงเป็นระบบที่เกื้อหนุนทุกฝ่าย รูปแบบบริการสมาร์ท ไลฟ์ โดเมน ก็จะทดแทนการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเก่าที่มีแต่การโทรออกรับสายและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น

ในส่วนการให้บริการ 5จี อย่างเป็นทางการนั้นคงจะเกิดขึ้นไม่เกินปี พ.ศ. 2563 แต่เราจะเห็นการทดลองบริการ 5จีก่อนหน้านั้น ในมหกรรมกีฬาระดับโลกต่างๆ อย่างเช่น การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2561 ที่พย็องชังประเทศเกาหลี การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก 2562 ที่กรุงโตเกียว และการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2563 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งเราจะได้เห็นกรณีศึกษาของ 5จีจริง ที่ไม่ใช่เพียงแต่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายในยุคไอโอที

ในด้านการถ่ายทอดรายการต่างๆ ก็จะมีความตระการตามากกว่าเดิม ไม่ใช่ในแง่ของความละเอียดของภาพอย่างเอชดี ไปสู่ 4K หรือ 8K เท่านั้น เพราะความละเอียดที่มากกว่า 8K ก็คงไม่ได้เพิ่มคุณค่าให้กับสายตาของมนุษย์สักเท่าใด แต่จะมีการผสานกับเทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) หรือวีอาร์ (Virtual Reality) เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิมจะเห็นได้ว่า 5จี ไม่ใช่เพียงการสื่อสารระหว่างคนกับคน แต่รวมไปถึงการสื่อสารระหว่างคนกับเครื่องจักร และเครื่องจักรกับเครื่องจักร และไม่ใช่แค่การสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแทบเล็ต การประยุกต์ใช้ 5จี จะทำให้การใช้งานโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นมหาศาล และสามารถเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตในสังคม โดยรูปแบบการให้บริการต้องมีการผสมผสานระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างลงตัว อย่างเช่น บ้านหรืออาคารอัจฉริยะ เมืองอัจริยะ อุปกรณ์อัตโนมัติ หรือแม้แต่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ที่ควบคุมทางไกลผ่าน 5จี หรือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เป็นต้น

ทุก10ปีเทคโนโลยีเปลี่ยน

เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคต่างๆ มีช่วงอายุอยู่ที่ประมาณ 10 ปี ไม่ว่าจะเป็น 2จี 3จี หรือ 4จี ซึ่ง 4จี ก็เปิดให้บริการในหลายประเทศมาประมาณ 7-8 ปีแล้ว 5จี จึงไม่ใช่เรื่องจินตนาการ และกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ปี ประเทศไทยคงต้องเตรียมตัวเพื่อรองรับการก้าวสู่ยุค 5จี ไม่ว่าจะในด้านการลงทุนโครงข่ายและอุปกรณ์ใหม่ การเตรียมคลื่นความถี่ให้เพียงพอต่อบริการ ไม่ว่าจะเป็นย่านความถี่ต่ำ ย่านความถี่กลาง และย่านความถี่สูง ซึ่งในคลื่นย่านความถี่สูงมากอย่าง 27-28 กิกะเฮิรตซ์ ที่เรียกว่า millimeter-wave อาจไม่จำเป็นต้องจัดการประมูลคลื่นความถี่

แต่ที่สำคัญที่สุดของการเตรียมตัว คือการปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เกี่ยวระบบนิเวศของการให้บริการ ที่ต้องผสมผสานบริการอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ระบบการสื่อสารของเราตอบสนองทุกมิติชีวิตของผู้ใช้งาน และสังคม สามารถใช้ประโยชน์จาก 5จี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคิดเรื่อง 5จี จึงต้องยกระดับจากการคิดแบบเทเลคอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส ไปสู่การมองให้เห็นแพลตฟอร์ม และ ระบบนิเวศใหม่ 5จี จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่จะสนับสนุนประเทศไทยให้เป็น 4.0