ยอมรับแล้ว สนช.ถูกมองเป็นกระบวการยื้อเลือกตั้ง แต่สุดท้ายอยู่ที่ผลโหวต

ยอมรับแล้ว สนช.ถูกมองเป็นกระบวการยื้อเลือกตั้ง แต่สุดท้ายอยู่ที่ผลโหวต

"รองประธานฯสุรชัย" รับ "สนช." ถูกมองเป็นกระบวการยื้อเลือกตั้ง แจงเพราะมีอำนาจจำกัด พร้อมฟังเสียงค้านทอดเวลาใช้กฎหมาย ส.ส. แต่มติสุดท้ายอยู่ที่ผลโหวต

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่หนึ่ง กล่าวยืนยันถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ว่าด้วยการแก้ไขมาตรา 2 ให้ขยายเวลาการบังคับใช้ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ออกไปจากเดิมที่ให้มีผลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่า สนช. ได้นำเสียงท้วงติงและเหตุผลของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงเหตุผลของสังคมมารับฟัง จากนั้นถึงนำมาตัดสินใจบนความเป็นประโยชน์เพราะกฎหมายเมื่อถูกใช้บังคับจะเกี่ยวข้องกับคนทั่วประเทศ อย่างไรก็ดีเหตุผลที่ต้องตัดสินนั้น คือความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องขยายเวลาจากร่าง เดิมที่ กรธ. เสนอ

"ยอมรับว่าสนช. พิจารณาเรื่องดังกล่าวบนความยากลำบาก เพราะไม่ว่าจะพิจารณาอย่างไร ก็ถูกมองว่าเป็นกระบวนการเดียวกันของการยื้อวันเลือกตั้งตามโรดแม็พ ทั้งนี้ขอให้เข้าใจว่า เรามีอำนาจอย่างจำกัด ทั้งประเด็นการปลดล็อค หรือไม่ปลดล็อคคำสั่งของคสช. ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง อย่างไรก็กระบวนการพิจารณาเรื่องขยายเวลานั้นขอให้ประชาชนรับฟังเหตุผลของสนช. ด้วย อย่าฟังเฉพาะประเด็นที่ถูกชี้นำผ่านสื่อมวลชน" นายสุรชัย กล่าว

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจว่า ร่าง พ.ร.ป. ส.ส.จะพิจารณาแล้วเสร็จในวันนี้ โดยที่ประชุมได้ตกลงว่าจะให้ผู้อภิปรายนั้นพูดอย่างกระชับ และอาจขอตัดประเด็นที่มีผู้อภิปรายซ้ำในประเด็นเดียวกัน จากนั้นในวันที่ 26 ม.ค. จะเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อไม่ให้เวลาพิจารณาของสนช. เกิน 60 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ที่ครบกำหนด วันที่ 26 ม.ค. นี้.