‘เสนา’เล็งโตเท่าตัวเปิดโครงการใหม่ 2.3 หมื่นล้าน

‘เสนา’เล็งโตเท่าตัวเปิดโครงการใหม่ 2.3 หมื่นล้าน

“เสนา”ชี้อสังหาฯโตต่อเนื่อง เปิดแผนธุรกิจปี61 ผุดโครงการใหม่“แนวราบ-คอนโด” 18 โครงการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นกว่า“เท่าตัว” สูงสุดรอบ 30 ปี เผยโปรเจคร่วมทุนฮันคิว 1 หมื่นล้าน หวังหนุนรายได้-ยอดขายโตก้าวกระโดด ชูนวัตกรรมใหม่จุดชาร์จไฟฟ้ารถอีวี

เศรษฐกิจไทย ปี 2561 คาดการณ์เติบโตที่ระดับ 3.8-5%  ขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อน ถือเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ สะท้อนจากการประกาศแผนเดินหน้าลงทุนเปิดโครงการใหม่ของดีเวลลอปเปอร์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่พัฒนาหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2561 เชื่อว่าเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา หรือราว 7% เนื่องจากผู้พัฒนาโครงการหลายรายร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนค่อนข้างมาก 

“ภาพรวมอสังหาฯปีนี้ปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยการส่งออกและการท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัว และรวมถึงภาครัญลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นและเริ่มกลับมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปีที่ผ่านมาและยังมีสัญญาณบวกในปีนี้” 

เปิดโครงการใหม่สูงสุดรอบ 30ปี

สำหรับแผนธุรกิจเสนาปีนี้ วางเป้าหมายเติบโตก้าวกระโดด ภายใต้กลยุทธ์ "Growth Hormone” ด้วยแนวทางเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 18 โครงการ  แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และแนวสูง 15 โครงการ มูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า“เท่าตัว” เมื่อเทียบปี 2560 เปิดใหม่ 9 โครงการ มูลค่า 9,149 ล้านบาท  หรือมีมูลค่าและจำนวนโครงการเปิดใหม่สูงสุดในรอบกว่า 30 ปี 

ปี2561 ตั้งเป้ายอดขาย 10,300 ล้านบาท เติบโต  66% จากปีก่อนอยู่ที่ 6,200 ล้านบาท และเป้ารายได้ 5,200 ล้านบาท  ขณะที่ปี 2560 อยู่ที่ 4,500 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ปี 2560 มีที่อยู่อาศัยรอขาย 3,068 ยูนิต ปี2561 มีแผนเปิดเพิ่ม 7,505 ยูนิต รวม 10,573 ยูนิต

ด้านมูลค่า ปี 2560 มีมูลค่ารอขายอยู่ที่ 7,763 ล้านบาท ปี 2561 เปิดใหม่มูลค่า 23,000 ล้านบาท รวม 30,763 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่รอรับรู้รายได้ถึงปี 2563

ตลาดคอนโดดีมานด์โต 11%

นางสาวเกษรา  กล่าวว่าทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจากการวิจัยข้อมูลของเสนา พบว่ามีดีมานด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยครอบครัวไทยเล็กลง  โดยปี 2537 ครอบครัวมีสมาชิกเฉลี่ย 3.42 คน ปี 2559 ลดลงเหลือ 1.9 คนต่อครัวเรือน  รวมทั้งแนวโน้มการใช้ชีวิตโสด, จำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น  และสังคมสูงวัย ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียม ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในครอบครัวขนาดเล็ก 1-2 คน มากขึ้น 

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าดีมานด์ตลาดคอนโดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 11% โดยปี 2550 ความต้องการอยู่ที่ 39,197 ยูนิต ขณะที่ปี 2559 ขยับไปที่ 90,077 ยูนิต ส่วนฝั่งซัพพลายช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19% จากปี 2550 อยู่ที่ 17,432 ยูนิต ปี 2559 ซัพพลายอยู่ที่ 70,914 ยูนิต

นอกจากนี้ในกลุ่มคอนโด ไฮเอนด์ ทำเลกลางเมืองและย่านธุรกิจ ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนและต่างชาติ เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งเป็นกลุ่มกำลังซื้อที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ดีมานด์ในตลาดดังกล่าวจึงเติบโตต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมามีดีเวลลอปเปอร์เปิดโครงการใหม่ กลุ่มคอนโด ไฮเอนด์มากขึ้น

เสนาฯ มีแผนเปิดตัวคอนโด 15 โครงการในปีนี้  โดยเป็นโครงการของเสนา 12 โครงการ มูลค่า  10,000 ล้านบาท และร่วมทุนกับ "ฮันคิว เรียลตี้" ประเทศญี่ปุ่น 3 โครงการ  มูลค่า 10,000 ล้านบาท  คือ 

นิช ไพรด์ เตาปูน เปิดตัวไตรมาสแรก ,โครงการคอนโดแบรนด์ใหม่ ทำเลเอกมัย ราคาต่ำกว่า 2 แสนบาทตร.ม. และอีก 1 โครงการกำลังพิจารณาทำเล  

“ปีนี้จะเปิดตัวคอนโด  พรีเมียม แบรนด์ใหม่ หลังจากมีประสบการณ์พัฒนาโครงการในกลุ่มนี้ในปีที่ผ่านมา” 

ชูนวัตกรรมจุดชาร์จไฟฟ้ารถอีวี

นางสาวเกษรา กล่าวว่ากลยุทธ์การพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัยของเสนา ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่ผ่านมาเสนาได้นำพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์มาติดตั้งในโครงการบ้านและคอนโด ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลาง รวมถึงพัฒนา แอพพลิเคชั่น SENA 360º Service ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

“ปี 2561 เรามีแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่น ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ด้านการประหยัดพลังงานและเวลา รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพให้มีบริการครบวงจรมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล”

พร้อมกันนี้ด้วยกระแสอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังก้าวสู่การผลิต,วิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาด จึงมีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) คาดว่าภายใน 5 ปี จะได้เห็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น ปีนี้ เสนาพร้อมเดินหน้าตั้งเป้าเป็น “The First EV ready” ด้วยการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้า ในบ้าน ที่ราคา 5-10 ล้านบาท เป็นรายแรกของไทย เพื่อช่วยผลักดันกระแสรักษ์โลกในกลุ่มกลาง นำร่อง 2 โครงการ ประกอบด้วย เสนา พาร์คแกรนด์ รามอินทรา-วงแหวน และเสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน   

โดยมูลค่าการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าอยู่ที่ 1.2 แสนบาท ซึ่งจะรวมเป็นมูลค่าบ้านและผ่อนชำระพร้อมกับสินเชื่อบ้านตามระยะเวลาสัญญากู้  ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งหรือไม่ติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าก็ได้