MORNING CALL ACTION NOTES (23 ม.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (23 ม.ค.61)

คลายกังวล Shut Down

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนแกว่งตัวแดนบวกเล็กน้อย  ภายใต้ทั้งปัจจัยบวกและลบจากต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากกลุ่ม ENERG แต่ถูกหักล้างบางส่วนจากกลุ่ม BANK หลังการรายงานผลประกอบการเสร็จสิ้น ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,824.06 จุด (+2.72 จุด) Volume 5.97 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -459.16 ลบ.  TFEX Net +9,483 สัญญา ตราสารหนี้ -2,661.56 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบในการลงมติรอบแรกร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.

+พาณิชย์ เผยส่งออก ธ.ค. ขยายตัวต่อเนื่อง 8.6% ดันทั้งปี 60 โต 9.9% สูงสุดรอบ 6 ปี และยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ปี 60 สูงสุดในรอบ 5 ปี

+น้ำมันดิบปิดบวกหลังจากซาอุดิอาระเบียออกมาสนับสนุนโอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตถึงปี 2562

+IMF เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปีนี้,ปีหน้า สู่ 3.9% จากอานิสงส์สหรัฐปฏิรูปภาษี

-รองประธานาธิปบดีสหรัฐลั่นย้ายสถานทูตสฯ ในอิสราเอลไปยังกรุงเยรูซาเลมภายในสิ้นปีหน้า

+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาขายราว 459 ลบ. ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าสู่ 31.81  Bath/USD

**22-23 ม.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่คลายกังวลสหรัฐชัตดาวน์ ราคาน้ำมันปรับขึ้น โดยมีปัจจัยกดดันจาก fund flow ผันผวน โดยมีปัจจัยหนุนจากตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ยังมีแนวโน้มดี ดังนั้นคาด SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,818-1,831 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- IVL ราคาฝ้ายปรับตัวขึ้น 6%MoM สู่ระดับ 83.42 $/Pound

- TVO (ต้นทุน 90% เป็น US รับผลบวกบาทแข็ง / ราคากากถั่วหลือง 6 วัน รวม +8.15% )

- PTTEP PTTGC ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง 63.49 $/bbl

- CENTEL ERW MINT นักท่องเที่ยว ธ.ค.ทำสถิติสูงสุดใหม่

- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D

หุ้นแนะนำพิเศษ

VCOM   (ราคาปิด 4.30)

  • ดำเนินธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบ IT โดยมีผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นตัวแทนจำหน่าย คือ Oracle และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์อีก 6 ราย ได้แก่ Hitachi Data Systems, Palo Alto Networks, Arista, Infoblox, Informatica และ Splunk  ให้กับลูกค้าที่เป็นผู้รวบรวมระบบ(SI)  รวมทั้งจำหน่ายให้ลูกค้าโดยตรง โดยมี end users เป็นทั้งหน่วยงานราชการและธุรกิจเอกชน  บริษัทมีธุรกิจรองโดยบริษัทย่อย“vServePlus” ที่ถือหุ้น 51% ในการให้บริการหลังการขายด้านบำรุงรักษา การติดตั้งและงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย
  • งวด 9M60 มีรายได้จากการขาย 817 ลบ. คิดเป็น 73 % ของรายได้รวม และรายได้จากการบริการ 291 ลบ. คิดเป็น 26% ของรายได้รวม กำไรสุทธิ 8 ลบ. +85.2%YoY โดยบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการสู่ระดับ 50% ในระยะยาวเนื่องจากรายได้จากการบริการมีมาร์จิ้นสูงกว่ารายได้จากการขาย  แนวโน้มในอนาคตมีการขยายตลาดออกไปในกลุ่ม CLM โดยคาดว่าจะสามารถการเติบโตได้ค่อนข้างดีในประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากภาครัฐและธนาคารในประเทศกำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานจากระบบ Manual มาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีตามนโยบายไทยแลนด์ 0 ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ระดับ 22 เท่าต่ำกว่ากลุ่ม ICT ในตลาด SET ที่ซื้อขายที่ระดับ 30 เท่า

หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : BOFFICE (ราคา IPO 10.00 บาท)

  • ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ(BOFFICE) เป็นการลงทุนลงทุนในโครงการ อาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ โดยมูลค่าทรัพย์สินที่เข้าลงทุน 6,605 ล้านบาท มีอายุสิทธิการเช่าประมาณ 27 ปี มีพื้นที่ให้เช่าทั้งส่วนสำนักงาน พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จอดรถส่วนสำนักงานโดยมีผู้เช่าทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติในหลากหลายธุรกิจ อัตราการเช่าประมาณ 99% ณ วันที่ 30กันยายน 2560
  • BOFFICE มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี ทั้งนี้ BOFFICE ได้ประมาณการอัตราเงินจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในปีแรกประมาณ 10% โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ BOFFICE 3 ลำดับแรก ได้แก่ บจก. ภิรัชบุรี ถือหน่วยทรัสต์ 19.99% ครอบครัวบุรี ถือหน่วยทรัสต์ 8.12% สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยทรัสต์ 4.85% และ บมจ.ไทยประกันชีวิต ถือหน่วยทรัสต์ 4.85%

หุ้นมีข่าว   

·        TVO (ราคาปัจจุบัน 32.25 บาท ซื้อเก็งกำไร) ราคากากถั่วเหลือง (ชิคาโก) ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.23% ติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 6 รวมกันกว่า 8.15% แล้ว สาเหตุหลักๆมาจากทั้งทางฝั่ง Supply ที่ 1) พื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐฯ (ผู้ผลิตถั่วเหลืองอันดับ 1 ของโลก) เผชิญกับพายุหิมะ 2) เหตุการณ์ La Nina ในประเทศอาร์เจนตินา (ผู้ผลิตถั่วเหลืองอันดับ 3 ของโลก) ซึ่งเป็นเหตุให้กรมอุตุฯในประเทศคาดการณ์ภาวะขาดแคลนน้ำในช่วงเก็บเกี่ยว ที่มีโอกาสลากยาวไปถึงกลางเดือน ก.พ. นอกจากนี้ ยังมีการรายงานตัวเลขการส่งออกถั่วเหลือจาก USDA ล่าสุด (11 ม.ค. 61) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.6%WoW จากการ Restocking ของประเทศจีน (ผู้นำเข้าถั่วเหลืองอันดับ 1 ของโลก) โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะเป็นผลบวกโดยตรงต่อ TVO ที่มีรายได้จากการจำหน่ายกากถั่วเหลืองราว 60 – 65% จึงแนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร”

·        (+) SYNTEC (ราคาปิด 5.5 ราคาเหมาะสม 5.9) ลุ้นผลประมูลงาน 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6.5 พันล้านบาท คาดทยอยทราบผลภายในปีนี้ เติมงานในมือเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 1.2 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงปี 2562 ส่วนรายได้ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ที่มาข่าวหุ้น

·        ความเห็น SYNTEC มี BACKLOG ที่แข็งแกร่งกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนให้รายได้การก่อสร้างให้เติบโตได้ตามเป้าที่ 5% สู่ระดับ 7.9 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังยังเตรียมประมูลงานเพิ่มเติมอีกกว่า 6.5 พันล้านบาทช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม

Analyst Meeting : KTB (ราคาปิด 20.40 Bloomberg Consensus เฉลี่ย 20.40)

·        ปี 60 มีกำไรสุทธิ 24,116 ล้านบาท ลดลง 28%YoY และต่ำกว่าคาดการณ์ของ Consensus 6% เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 34% เพื่อรักษาระดับ Coverage Ratio ที่ 121.71% หลังและเตรียมพร้มรองรับมาตรฐาน IFRS 9 ที่จะบังคับใช้ในปี 62

·        คุณภาพสินทรัพย์แย่ลง %NPL ปลายปี 60 เพิ่มขึ้นสู่ 4.19% จาก 3.97% ปลายปี 59 ในอุตสาหกรรมเกษตรโดยเฉพาะข้าวและมันสำปะหลัง credit cost ปี 60 เพิ่มขึ้นสู่ 201 bps จาก 147 bps ในปี 59 หากไม่รวมลูกหนี้ EARTH มี credit cost เท่ากับ 138 bps)

·        ความเห็น แผนเพิ่มงบลงทุนด้านไอทีจาก 5 พันล้านบาทในปี 60 เป็น 1 หมื่นล้านบาทในปี 61 ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราส่วนคชจ.ต่อรายได้มีแนวโน้มสูงขึ้นจากระดับ 40% ในปี 60 เรามีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวจากการเป็นแบงก์รัฐช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและสินเชื่อภาครัฐ Dividend Yield 4% แนะนำ ถือ

·        (+) TPCH (ราคาปิด 15.20 ราคาเหมาะสม 21.74) KBANK ปล่อยกู้ 1.37 พันลบ. ให้ TPCH ใช้ลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลปัตตานี กรีน

·         (+) บิ๊กบอส EPCO ยัน “เสี่ยกำพล” เป็นเพียงผู้ถือหุ้นอันดับ 3 ไม่มีอำนาจบริหาร ชี้ไม่ได้รับผลกระทบกรณีคดีของเสี่ยกำพล ลั่นปัจจัยพื้นฐานแกร่ง แย้มผลงานปี 60 โตก้าวกระโดด พร้อมดัน EP เข้าตลาดหุ้นภายในปี 61 ที่มาข่าวหุ้น

·        (+) WHAUP-GULF ดึงบ.ร่วมทุน"MITSUI-TOKYO GAS" เข้าร่วมทำธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซในนิคมฯ

·        (+) THAI-NETBAY เปิดบริการใหม่ TG-e-Import Service Payment

·        NPP จะเพิ่มทุน 400 ล้านหุ้น ราคา 0.70 บ./หุ้น ขายให้แก่ Asia Alpha Equity Fund 1 เข้าถือหุ้นราว 24.9%