'บล.ฟิลลิป' มองหุ้นไทยปีนี้แกว่งในกรอบ 1,700-1,930 จุด

'บล.ฟิลลิป' มองหุ้นไทยปีนี้แกว่งในกรอบ 1,700-1,930 จุด

"บล.ฟิลลิป" มองหุ้นไทยปีนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,700-1,930 จุด ประเมิน EPS ของบจ.ปีนี้อยู่ที่ 113.4 บาท/หุ้น ส่วน P/E 15-17 เท่า

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล นักวิเคราะห์กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป จำกัด กล่าวว่า บล.ฟิลลิปมองกรอบดัชนีหุ้นไทยปีนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,700-1,930 จุด ด้านกำไรต่อหุ้น Earnings Per Share (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนในไทยคาดอยู่ที่ 113.4 บาท/หุ้น และ Price to Earnings Ratio (P/E) 15-17 เท่า

ภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ จากการเลือกตั้งเป็นไปตามแผนดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ด้านการลงทุนภาครัฐโครงการต่างๆ เริ่มเดินหน้า หนุนภาคเอกชนกำหนดทิศทางการลงทุนได้ หนุนภาคส่งออกและท่องเที่ยวเติบโตดี

ทั้งนี้ แนะกองทุนปีนี้ เน้นลงทุนกองทุนหุ้นไทย30% ,กองทุนหุ้นจีน10% และกองทุนหุ้นเฮลท์แคร์10% หากลงทุนอย่างน้อย 1 ปี คาดผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า8%

โดยสัดส่วนการลงทุนของกองทุนที่บล.ฟิลลิปแนะนำ คือลงทุนกองทุนหุ้น70% และในพันธบัตรรวมถึงกองREIT 30% โดยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นยังคงแนะนำในหุ้นไทยถึง30% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีกว่าคาดจากการท่องเที่ยวและภาคส่งออก กระตุ้นภาคบริโภค ซึ่งหากมองในแง่Valuation ปัจจุบันถือว่ายังไม่แพงมาก แนะกองทุนประเภทActive ,Passiveและหุ้น Mid-Small อาทิ กอง 1AMSET50 ,BTP,SCBSET50 และ ASP-SME

ด้านกองทุนหุ้นจีน ที่ยังคงแนะนำเนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากให้ความสำคัญกับการเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ โดยหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคในประเทศและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง โดยแนะนำกองทุนประเภท New China,ลงทุนแบบ VI อาทิกอง TMBCOF,K-CHINA,SCBCHA,TMBAGLF

ส่วนการลงทุนในกองทุนเฮลท์แคร์มองว่าพื้นฐานเรื่องของโครงสร้างประชากรทั่วโลกที่มีปริมาณผู้สูงอายุเพิ่ม ค่าใช่จ่ายทางการแพทย์เพิ่ม เหมาะกับการลงทุนระยะยาวนอกจากนี้ราคาซื้อขายในปัจุบันถูกกว่า S&P500 โดยลงทุนในการกระจาย Sector ,เน้นกลุ่มBiotech อาทิกอง BCARE , KF-HEALTHD และ CIMB-PRINCIPAL GSA

"การลงทุนกองทุนในหุ้น มองกองทุนหุ้นไทยยังน่าสนใจสุดแนะลงทุน30% ของพอร์ต หากใครถือตั้งแต่ปีก่อนให้ถือต่อ และอาจลงทุนเพิ่มได้ ส่วนกองทุนหุ้นจีนและกองทุนหุ้นเฮลท์ลงทุนประมาณอย่างละ 10-15%" นายสานุพงศ์ กล่าว