'หมวกยาง' ทางออกแก้ปัญหากรีดยางพาราช่วงหน้าฝน

'หมวกยาง' ทางออกแก้ปัญหากรีดยางพาราช่วงหน้าฝน

เกษตรกรระนองหัวใสงัดภูมิปัญหาท้องถิ่น ประดิษฐ์ “หมวกยาง” แก้ปัญหาการกรีดยางพาราช่วงหน้าฝนสำเร็จเป็นรายแรกของประเทศ ล่าสุดได้ยื่นขอจดลิขสิทธิ์ ป้องกันพ่อค้าหัวใสแอบเลียนแบบนำไปประดิษฐ์ขาย

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินัย ทองพร้อม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.7 ต.นาคาอ.สุขสำราญ จ.ระนอง เกษตรกรชาวสวนยางจ.ระนอง ผู้คิดค้นประดิษฐ์หมวกยาง คนแรกของไทย เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากปัญหาสภาพอากาศในเขตพื้นที่ จ.ระนองที่มีฝนตกถึง 8 เดือนในแต่ละปี จนส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรโดยเฉพาะการกรีดยางพารา ทำให้ตนเกิดแนวคิดที่จะประดิษฐ์สิ่งของที่จะสามารถเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาการกรีดยางพาราโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนได้ ทั้งนี้เพื่อยืดระยะเวลาการกรีดยางพาราให้นานขึ้น

"ทำสวนยางพารามากว่า 20 ปี พบว่า จ.ระนองมีฝนตกชุกมากตั้งแต่เดือน พ.ค.- ต.ค. แทบจะไม่สามารถกรีดยางพาราได้เลยทำให้ไม่มีรายได้ ซึ่งตนพยายามคิดหาแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการประดิษฐ์สิ่งที่สามารถบังฝนบริเวณรอยกรีดและภาชนะบรรจุน้ำยางพารา ลองผิดลองถูกมากกว่า 10 ปี จนในที่สุดได้เป็นหมวกยางพาราที่ทำจากพลาสติกหนา ผูกติดเหนือรอยกรีดกันน้ำฝน ซึ่งจากการทำลองใช้มากว่า 1 ปีพบว่าสามารถป้องกันฝนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเพิ่มจำนวนวันในการกรีดได้มากขึ้น และฝนที่ตกชุกในเขตพื้นที่ จ.ระนองไม่เป็นปัญหาและอุปสรรคอีกต่อไป"

นายวินัยกล่าวต่อว่า หมวกยางตนได้เริ่มประดิษฐ์และคิดค้นมาตั้งแต่ปี 2534 และสามารถพัฒนาเรื่อยมาสำหรับหมวกยาง เป็นอุปกรณ์กันฝน หรือกันน้ำไหลบ่าลงในถ้วยน้ำยางหรือหน้ายาง ทำให้น้ำยางเสียหายทำโดยมีโครงลวดคลุมด้วยพลาสติกหนา ผูกติดเหนือรอยกรีดกันน้ำฝนทำให้กรีดยางได้ในวันฝนตกเพิ่มวันกรีดเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร

นายวินัย กล่าวต่อว่า โดยปกติยางพาราในระนองจะมีวันกรีดเฉลี่ย 110 วันต่อปี ผลผลิต 287 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปีแต่เมื่อทำหมวกยางสามารถเพิ่มวันกรีดยางได้ถึง 170 วันต่อปีส่งผลให้ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้น

สำหรับอุปกรณ์การทำหมวกยางเกษตรกร และขั้นตอนการทำ เริ่มจากการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ดังนี้ ลวด เบอร์ 12 นำมาตัดเป็นเส้น ยาว 175 เซนติเมตรพับเป็นโครงสร้างหมวกและตัดขนาดยาว 75 เซนติเมตร พับเป็นรูปตัววี เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างหมวก จากนั้นนำลวดเส้นเล็ก ตัดยาว 15 เซนติเมตรใช้ผูกพันให้โครงสร้างหมวกแข็งแรงขึ้น นำถุงพลาสติกใส ขนาดกว้าง 16 ยาว 26 นิ้ว นำมาเย็บติดโครงสร้างหมวก มุงเป็นหลังคาใช้พลาสติกหนา นำมาตัดกว้าง 8 นิ้วความยาวเท่ารอบต้นยางและจีบคล้ายกระโปรง

ขั้นตอนต่อมาใช้เชือกสำหรับผูกหมวกให้ติดต้นยางจากนั้นนำยางในรถจักรยานยนต์ตัดเป็นเส้น กว้างครึ่งนิ้วความยาวตามเส้นรอบวงต้นยาง โดยต้นทุนหมวกยางต่อต้นเฉลี่ยที่ชุดละ 15 บาท และเมื่อหมดช่วงกรีดยางหรือเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนสามารถถอดเก็บเพื่อรักษาอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น และจากชุดอุปกรณ์หมวกยางที่คิดค้นขึ้นขณะนี้ได้ยื่นขอจดลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตรป้องกันการนำไปแสวงหาผลประโยชน์เรียบร้อยแล้วส่วนเกษตรกรชาวสวนยางที่สนใจตนยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้และแนะนำขั้นตอนการประดิษฐ์ให้แต่ไม่อนุญาตให้นำไปทำเป็นการค้า