สั่งเข้ม! สกัดกลุ่มจ้องป่วน แจงหนุ่มมาเลฯขนปืนขึ้นเครื่องบิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อเหตุหลายจุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ว่า ถือเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งสื่อก็ทราบอยู่แล้วว่าเขาต้องการขยายพื้นที่ข่าว และประชาสัมพันธ์เพื่อกดดันรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญคือทำให้เกิดผลเสียต่อการลงทุนทางเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน อย่าไปขยายให้เขาเลย มันไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น ส่วนมาตรการด้านความมั่นคงก็จะเพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรบนท้องถนน ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือจะได้เกิดความปลอดภัย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ที่ว่า ได้สั่งการไปแล้วให้ผู้บัญชาการทหารบก ลงไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพราะหน่วยงานความมั่นคงได้ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว และในทางการข่าวก็มีการทำงานอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีกลุ่มคนที่จ้องสร้างสถานการณ์โดยเฉพาะช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจะต้องมีการเตรียมการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น

ส่วนกรณีที่ปากีสถานจับกุมชาวมาเลเซีย ที่พยายามขนอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินการบินไทยเพื่อเดินทางมากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.นั้นว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เป็นเพียงการขนอาวุธผิดกฎหมายไม่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่าน และไม่คิดว่าจะเป็นการไฮแจคเรื่องบินอย่างไรก็ดี ในช่วงปีใหม่นี้ กระทรวงกลาโหมได้เตรียมมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยพยายามป้องกันเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย

เช่นเดียวกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีทางการปากีสถานจับกุมชายชาวมาเลเซียที่พยายามพกพาอาวุธเตรียมขึ้นเครื่องของสายการบินไทยที่จะออกเดินทางจากนครการาจีมายังกทม.ว่า ตนทราบข้อมูลเบื้องต้นจากข่าว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นการเตรียมก่อเหตุจี้เครื่องบิน เพราะการกระทำดังกล่าวไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าผู้ถูกจับกุมรายนี้ต้องการจะมาก่อเหตุในประเทศไทย หรือจะใช้ไทยเป็นทางผ่าน จึงต้องผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ต่อไป

ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดล่าสุดพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุเชื่อว่ามาจากการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีข้อสั่งการให้เพิ่มการเฝ้าระวังให้มากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีกให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้อย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวด้วย โดยขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับความปลอดภัย และขอให้ใช้ความอดทน ต่ออุปสรรคต่างๆ ” รอง โฆษก ตร. กล่าว