นายกฯปัดดีลการเมืองตั้งครม. เมิน '2พรรคใหญ่' จับมือต้าน

นายกฯปัดดีลการเมืองตั้งครม. เมิน '2พรรคใหญ่' จับมือต้าน

"พล.อ.ประยุทธ์" ปัดดึง "วีรศักดิ์" นั่งรัฐมนตรีหวังดีลการเมือง เมิน "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" จับมือต้านพรรคทหาร "ประวิตร" ยันเปลี่ยนรมช.กลาโหมงานยังต่อเนื่อง

วานนี้ (28พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในครั้งนี้ที่มีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยเข้ามาร่วมว่า ตนไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนจากพรรคไหนเพราะวันนี้ไม่มีพรรค แต่เป้าหมายของตนคือต้องการให้กับประชาชน

“ผมไม่ได้มองหรือดีลการเมืองกับใคร เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง ผมไม่ดีลกับใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของการแสดงผลงานออกมาให้เห็น ช่วงที่ผ่านมาก็ได้ทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ก็น่าจะทำงานได้ดี ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ส่วนที่มีการปรับตำแหน่งของพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ที่ผ่านมาพล.อ.อุดมเดช ก็ทำงานร่วมกับตนถึง 3 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในคสช.สิ่งสำคัญวันนี้ตนกำลังเน้นไปสู่เรื่องของความปรองดองก็มอบหมายให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะส่วนในเรื่องของภาคใต้ในส่วนของคปต.ส่วนหน้า ได้หารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยจะมอบหมายให้พล.อ.สุรเชษฐ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ตนได้พูดกับพล.อ.อุดมเดชไปก่อนหน้าที่จะมีการปรับครม. ซึ่งก็เข้าใจกันดี
เมิน2พรรคจับมือต้านพรรคทหาร

ส่วนการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ยืนยันอีกครั้งว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ที่ผ่านมาทำงานหลายอย่างในเชิงโครงสร้าง มีการปรับรูปแบบในการทำงาน หลายอย่างเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกร แต่สิ่งที่มีความจำเป็นวันนี้คือเราจะต้องเพิ่มเติมในระยะที่ 2 ตนก็อยากได้คนใหม่มาทำงานบ้างขณะเดียวกันนโยบายเดิมที่ทำไว้ก็ต้องทำต่อไป

อย่างไรก็ดีความมุ่งหมายในการปรับครม.ทั้งหมดนั้นคือต้องการคนใหม่เข้ามาเพื่อให้เกิดภาพของการเปลี่ยนแปลง ส่วนความเห็นเกี่ยวกับการที่ 2 พรรคใหญ่ อย่างประชาธิปัตย์กับ เพื่อไทยบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกันทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องของเขา ตนไม่สนใจว่าใครจะร่วมกับใครตนไม่เกี่ยวข้องเพราะจะทำงานให้ประเทศเรื่องอื่นค่อยว่ากัน”

ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าสูตรที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์จับมือกันเพื่อต้านนายกฯคนนอกนั้น ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนักการเมือง ตนไม่ใช่นักการเมือง ตอนนี้เรามีหน้าที่ทำงานก็ต้องทำงานไปเท่านั้น ส่วนการประชุมครม.สัญจรที่มีเพียงนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 15 คนนั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี ส่วนจะให้พล.อ.ชัยชาญจะมาเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พล.อ.อุดมเดช ที่เคยรับผิดชอบหรือไม่นั้น ในวันที่ 1 ธ.ค.จะมีคำสั่งดังกล่าวออกมา ยืนยันว่า แม้จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีแต่งานจะมีความต่อเนื่องอย่างแน่นอน

พล.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ถึงโฉมหน้าครม.ชุดใหม่โดยเชื่อมั่นว่าดีขึ้น ส่วนเรื่องการแบ่งงานของกระทรวงศึกษาธิการนั้นขึ้นอยู่กับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่าจะมีนโยบายอย่างไร และคาดว่าจะมีการนำเข้าหารือกันในที่ประชุมครม.ครั้งหน้า

เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังนายกรัฐมนตรีนำครม.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 30 พ.ย.60 นี้ในวันที่ 1 ธ.ค.60 ตนจะหารือกับนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ถึงงานในกระทรวงที่จะต้องรับผิดชอบทั้งนี้ นายกฯ ยังไม่ได้มอบหมายงานใดเป็นพิเศษ