อดีตสว.ยันไม่เกี่ยวคดีครูจอมทรัพย์ รับเคยมาขอปรึกษากม.

อดีตสว.ยันไม่เกี่ยวคดีครูจอมทรัพย์ รับเคยมาขอปรึกษากม.

"พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ" อดีต สว. มุกดาหาร ยันไม่เกี่ยวคดีครูจอมทรัพย์ รับเคยมาขอปรึกษากฎหมาย

หลังศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จ.สกลนคร ที่ได้ออกมาร้องทุกข์ให้มีการรื้อฟื้นคดี โดยอ้างว่า ตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย เมื่อปี 2548 จากนั้นวันที่ 17 พ.ย. 60 ศาลจังหวัดนครพนมได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยยกคำร้องครูจอมทรัพย์ ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลฎีกา เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ครูจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นแพะ พยานหลักฐานที่นำมาเบิกความต่อศาลไม่น่าเชื่อถือ หลังศาลยกฟ้อง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดชุดเจ้าหน้าที่สอบสวน เพื่อเอาผิดบุคคลในกระบวนการที่อ้างว่า มีการว่าจ้างให้ติดคุกแทนครูจอมทรัพย์จริงนั้น

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด พันตำรวจโทจิตต์ ศรีโยหะ อดีต สว.จังหวัดมุกดาหาร ได้ออกมาแถลงข่าว ที่ศาลเจ้าพ่อพญานาค ริมฝั่งโขงบ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทราย อ.เมือง จ.มุกดาหาร

พันตำรวจโทจิตต์ ศรีโยหะ อดีต สว. จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สำหรับคดีครูจอมทรัพย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นแต่อย่างใด เพียงแต่ได้รับการประสานจากนายสุริยา นวลเจริญหรือครูอ๋อง นายสับ วาปี และญาติ 10 คน ขอเข้าพบปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ชน มีผู้เสียชีวิต โดยบุคคลกลุ่มนี้ได้มาขอคำปรึกษา เนื่องจากเคยสอบสวนคดีจราจรมากว่า 20 ปี โดยอ้างว่าหากนายสับ วาปีเข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน ในท้องที่เกิดเหตุ ทำอย่างไร ถึงจะไม่ถูกลงโทษจำคุก

“ช่วงนั้นแนะนำว่าถ้าทำจริง ชนจริงหนีไปจริง ก่อนไปมอบตัว ขอให้ไป พบญาติผู้ตายก่อน ไปปรึกษาหารือ ญาติผู้ตาย จะเรียกร้องค่าเสียหายเท่าใด ค่าปลงศพเป็นเงินเท่าใดและในการไปพบญาติผู้ตายตกลงกันอย่างไร ให้มีการบันทึกไว้ด้วยและนัดวันไปพบพนักงานสอบสวน เมื่อตกลงความเสียหายได้ ให้ไปแถลงต่อศาล ขอความเมตตา จะถูกลงโทษ แต่รอลงอาญาไม่น่าติดคุก เพราะเคยทำคดีดังกล่าวมาหลายคดี” พันตำรวจโทจิตต์ กล่าว

พันตำรวจโทจิตต์ อ้างว่า จากนั้นไม่มีการติดต่อกับบุคคลกลุ่มนี้อีก ผ่านไป4ปี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 จึงทราบข่าวนางจอมทรัพย์ และนายสับ วาปี ไปแถลงข่าวที่ดีเอสไอ เพื่อมอบตัวและขอรื้อฟื้นคดีใหม่เท่านั้น ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรื้อฟื้นคดี ของครูจอมทรัพย์ อย่างที่หลายคนเข้าใจเพราะไม่รู้จักนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา เพียงให้คำปรึกษากฎหมาย เหมือนบุคคลทั่วไปที่มาขอรับคำปรึกษาซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง