Retail Market Monitor (21 พ.ย.60)

Retail Market Monitor (21 พ.ย.60)

น้ำหนักของการลงทุนเริ่มมายังกลุ่มบริโภคในประเทศชัดขึ้น

แนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นจากเดิมผลักหุ้นกลุ่ม ปัจจัยภายนอก (External plays) แรงผลักดังกล่าวบวกกับโมเมนตัมของภาคการผลิต ภาคบริการ และต่อมาถึงภาคเกษตร ส่งผลให้มีแรงหมุนไปยังเศรษฐกิจภายในและการบริโภค (Domestic plays) มากขึ้น ทำให้หุ้นบางกลุ่มจะเริ่มเคลื่อนไหวได้เด่นกว่าตลาด (Outperform) อาทิ ค้าปลีก เช่าซื้อ บัตรเครดิต รวมไปถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (รับเหมาก่อสร้าง) ในขณะที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่เกาะกระแส EEC ก็ยังไปต่อได้ แต่เริ่มเห็นหุ้นนอก EEC และหุ้นขนาดเล็กอื่นเริ่มปรับตัวตามขึ้นมา แต่สำหรับภาพรวมตลาดหรือดัชนีอาจไม่ได้ปรับขึ้นหวือหวา เนื่องจากนักลงทุนสถาบันทำการปรับพอร์ต (rebalancing) ขายหุ้นที่มีกำไรมากหรือแพง และเริ่มเพิ่มน้ำหนักกลุ่มบริโภคในประเทศ ซึ่งหากสัญญาณบวกต่อ GDP แรงพอ จะทำให้เงินบางส่วนหมุนกลับกลุ่มธนาคาร (ที่ช่วงสั้นยังถูกสำรองและ ค่าใช้จ่าย IFRS9 กดอยู่) และทำให้ตลาดกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง

Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE*  3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SCN*, IT*, RICHY*,  TTCL*, ICHI*

ภาพรวมกลยุทธ์: แม้การฟื้นตัวผ่าน 1705 จะทำให้จิตวิทยาภาพรวมเป็นบวกยิ่งขึ้น แต่ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) ชอบกลุ่ม เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคมฯ รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง และทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร// หุ้นแนะนำ AP, TK, PYLON

แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันปิดลบการประชุมโอเปคสัปดาห์หน้า (30 พ.ย.) / ราคาโลหะทรงตัว / ราคาสินค้าเกษตรปิดบวกทั้งกระดาน, สัญญาข้าวโพดพุ่งขึ้นเกือบ 2% จากแรงซื้อชดเชยการ short sale และ อุปสงค์การส่งออกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในอาร์เจนตินา / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,385 จุด (+1.02%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 96.25 เหรียญฯต่อตัน (-0.31%)

โกลด์แมน แซคส์ คาดปีหน้าเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง - จากตลาดแรงงานที่อยู่ในภาวะตึงตัวและภาพรวมอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 61 เป็น 2.5% และปรับลดคาดการณ์อัตราการว่างงานช่วงสิ้นปี 61 ลงเหลือ 3.7%

เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากกว่าคาด - สภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3/60 ขยายตัว 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส โดยได้รับแรงหนุนหลักมาจากมูลค่าการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน, การใช้จ่ายภาครัฐบาล, และการลงทุนรวม ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 60 ขึ้นเป็น 3.9% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.7% และคาดว่า GDP ปี 61 จะเติบโตได้ในช่วง 3.6-4.6%

คาดรายได้เกษตรกรชะลอตัวต่อเนื่องใน พ.ย. และทรงตัวใน ธ.ค. – สศก.เผยดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือน ต.ค. ปรับตัวลง 2.42% yoy ขณะที่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือน ต.ค. ลดลง 1.57% yoy ส่งผลให้ภาพรวมรายได้เกษตรกรชะลอตัว 3.96% yoy

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว ก.ท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 10M/60 (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 28.8 ล้านคน หรือ ขยายตัว 6.69% yoy ก่อให้เกิดรายได้รวม 1.47 พันลบ. หรือ เพิ่มขึ้น 9.31% yoy

ประเด็นติดตาม: 22 พ.ย. - กสทข.พิจารณาการใช้คลื่น 2300MHz ของ DTAC / 23 พ.ย. – รายงานการประชุม FOMC, วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)