MORNING CALL ACTION NOTES (21 พ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (21 พ.ย.60)

เขียวตามรอบบ้าน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ปรับตัวขึ้นแรงจากกลุ่ม COMM หนุนหลัก หลังมีการปรับประมาณการ GDP ของสภาพัฒฯ โดยรวม SET Index ปิดที่ 1714.38 จุด (+5.00 จุด) Volume 4.91 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +342.77 ลบ.  TFEX Net -6,283 สัญญา ตราสารหนี้ +7,606 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี  อีกทั้งดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐพุ่งขึ้น 1.2%

+สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาส 3/60 โต 4.3% ปรับคาดการณ์ทั้งปีโต 3.9% จากเดิมคาด 3.5-4%

-น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ค.

-โกลด์แมน แซคส์ คาดธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งในปีหน้า มากกว่าการคาดการณ์ของตลาดซึ่งคาดว่าจะขึ้นเพียง 3 ครั้ง

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อเป็นวันที่ 2 รวม 577 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า 32.83 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.07 แสนสัญญา)

**21 พ.ย. สหรัฐ  เปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนต.ค. /     ราคาบ้านเดือนก.ย. / ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

**23 พ.ย. ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา**

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาค  โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปรับลงส่งผลเชิงลบทางจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน  และ fund flow ต่างชาติที่ยังผันผวน  คาดวันนี้ SET เคลื่อนไหวในแดนบวกในกรอบ 1,709-1,725 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- ERW ปลัดท่องเที่ยว หนุนใช้มาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวไทยเที่ยวไทย

- หุ้นที่ MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนัก IVL TOP SCB PTTGC KBANK และใน MSCI Small Cap เพิ่ม BEC GGC ORI VNT WHAUP  มีผล 30 พ.ย.

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC JUBILE AMA

- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP

- ประเด็นบวกกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กนอ.โชว์ยอดขาย ปี 60 ทะลุเป้าที่ 3,058 ไร่ รวมมูลค่า 1.18 แสนล้านบาท

หุ้นแนะนำพิเศษ

AGE (ราคาปิด 1.95 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.35 บาท)

  • จากงาน Road Show ของ AGE วานนี้ ผู้บริหารเน้นย้ำเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้และปีหน้า 25 - 30%YoY โดย 9M60 เติบโตกว่า 7%YoY จากผลบวกหลัก คือ การหยุดชะงักของคู่แข่งรายหลักหนุน Voloume ในประเทศ และธุรกิจเรือที่มีมาร์จินสูงมาหนุนบางส่วน (จากกองเรือใหม่ 8 ลำ รับมอบช่วงกลางปี 60) สำหรับปี 61 คาดได้ Volume จากต่างประเทศรวม จีน (ร่วมทุน) และเวียดนาม (บริษัทย่อย) รวมราว 4 - 4.5 แสนตัน จากเป้าหมายปี 60 ที่คาดจะปิดอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน มา Top up ปัจจุบันความคืบหน้าของ เวียดนามอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่คัดแยกถ่านหิน โดยจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค. 60 ซึ่งเป็นการอ้างอิงโมเดลธุรกิจคล้ายกับที่ไทย น่าจะสนับสนุนอัตรากำไรที่มีโอกาสอยู่ในระดับต่ำจากการค้าไปต่างประเทศได้บางส่วน ด้านจีนคาด Shipment แรกต้นปี 61 จาก บ.ร่วมทุน ที่น่าจะจัดตั้งแล้วเสร็จ ธ.ค. 60 เช่นกัน
  • ฝ่ายวิจัยยังคงเชื่อว่า บริษัทจะสามารถทยอยส่งมอบการเติบโตในปี 61 ได้ตามที่คาดหวัง ซึ่งนอกจากปี 60 มีฐานที่ต่ำพอสมควรในช่วง 1H60 (มี FX loss ราว 50 ล้านบาท) โดยบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การทำ Forward อัตราแลกเปลี่ยนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันที่คาดเดายาก ทำให้ความเสี่ยงด้านนี้ลดลงมาก นอกจากนี้ ยังเชื่อมันใน Demand จากทั้ง จีนและเวียดนาม ว่าจะเป็นประเด็นสนับสนุน Volume ทำ New High ปี 61 โดยรวมยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 35 บาท Upside 20.5% คาด Div. Yield อีก 3 - 5%

หุ้นมีข่าว   

·        +BPP ตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่นรวม 1,000 MW ภายในปี 68 เล็งต่อยอดขายไฟตรงให้ปชช.

·        ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องของบริษัท เนื่องจากบริษัทมี D/E Ratio ต่ำเพียง 0.18 เท่าทำให้มีโอกาสขยายการลงทุนได้มาก โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตอีก 1.7 GW สู่กำลังการผลิตรวม 4.3 GW ภายในปี 2025 ทั้งรูปแบบ M&A และ Greenfield ในประเทศเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย ญี่ป่น และจีนซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการและเงินปันผลของบริษัทในอนาคต

·        PDI Analyst Meeting (ราคาปิด 21.90)

·        3Q60 มีกำไร 352 ลบ. -49%YoY -46%QoQ  9M60 กำไร 637 ลบ. +80%  ได้รับผลบวกจากราคาสังกะสีโลกที่พุ่งสูงขึ้น ราคาเฉลี่ยในรอบ 9M60 อยู่ที่ 2,781 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน +43%YoY จากราคาเฉลี่ย 1,948 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันใน 9M59

·        คาดสต๊อกสังกะสีจะขายหมดภายใน 4Q60 ปีหน้าจะปรับมาทำธุรกิจนายหน้าซื้อขายสังกะสีป้อนตลาดภายในประเทศควบคู่ไปกับธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่ดำเนินการผลิตแล้ว 38.6 MW หลังเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด  30 MW ในเดือน ก.ย. 2560 คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงแต่จะรายได้จะมีเสถียรภาพมากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว  ส่วนโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่สองขนาด 10.5 MW ที่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างก่อสร้างและคาดจะเริ่มผลิตได้ภายใน 1Q61 ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50 MW

·        ความเห็น ผลดีของกำไรจากสต๊อกสังกะสีที่พุ่งขึ้นสูงตามระดับราคาตลาดโลกสร้างผลบวกต่อกำไรในปีนี้เท่านั้น  ส่วนปีหน้าผลการดำเนินงานจะขึ้นอยู่กับธุรกิจโซลาร์ฟาร์มเป็นหลัก   ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าแม้รายได้จะปรับตัวสูงขึ้นแต่คาดกำไรสุทธิจะหดตัวลงจากฐานที่สูงในปีนี้  แต่ด้วยกระแสเงินสดที่เพียงพอแก่การลงทุนในอนาคตตามแผนงานจึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนหรือลดการจ่ายปันผล จึงให้คำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น” ผลประกอบการทั้งปีที่จะเติบโตสูง และให้คำแนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” สำหรับลงทุนระยะยาว

·        SC Analyst Meeting (ราคาปิด 3.76 Bloomberg Consensus 4.08)

·        3Q60 มีกำไรสุทธิ 363 ลบ. +5%YoY +37%QoQ 9M60 มีกำไรสุทธิ 703 ลบ. -59%YoY เนื่องจากรายได้จากการขายลดลง 34%YoY ส่วนรายได้ค่าเช่ายังสม่ำเสมอราวไตรมาสละ 200 ลบ.จาก OR เฉลี่ยอยู่ในระดับสูงราว 93% backlog ปลายก.ย. 9,800 ลบ.ราว 30% จะโอนใน Q4 โดยจะเริ่มโอนคอนโดฯ “Chamber Cher” มูลค่า 780 ลบ.มียอดจองแล้ว 45%   สำหรับยอดขาย presale 9M60 เท่ากับ 10,968 ลบ. +48%YoY ในช่วง Q4 จะเปิดขายโครงการใหม่อีก 5 โครงการมูลค่าเกือบ 6 พันลบ.ซึ่งเป็นแนวราบทั้งหมด

·        ความเห็น แม้คาดรายได้รวม(ขายอสังหาฯ+รายได้ค่าเช่า)น่าจะต่ำกว่าเป้าที่ 1.48 หมื่นลบ. แต่คาดกำไร Q4 จะฟื้นตัว YoY QoQ และสูงสุดรายไตรมาสของปีนี้ คาดกำไรปี 60 น่าจะอยู่ที่ราว 1.5-1.6 พันลบ. ลดลง19% โดยคาดจะฟื้นตัวในปี 61 จากกำหนดโอนคอนโดฯ 2 โครงการมูลค่ารวม 8,700 ลบ. หุ้น SC น่าสนใจที่ yield สูงเฉลี่ย 4.3% แนะนำถือรอรับเงินปันผล

·        +FN เปิดสาขาที่ 10 "ฉะเชิงเทรา"ใน ธ.ค.60 รับไฮซีซั่น-ช็อปช่วยชาติ

·        ตลท.ขึ้น SP หุ้น FC วันนี้ หลังจะประชุมบอร์ดถกปรับโครงสร้างธุรกิจในวันนี้