อิทธิฤทธิ์กา 'ไม่เลือกใคร' ทำเลือกตั้งโมฆะ

ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นัดพิเศษ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร( ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรธ. กล่าวถึงการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เกรงจะทำให้เกิดความสับสนหรือทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ ว่าจะไม่ทำให้เกิดความสับสน เนื่องจากการเลือกตั้งในแต่ละเขตอยู่ที่ประชาชนจะลงคะแนน โดยส.ส.บัญชีรายชื่อจะเป็นการคำนวณสัดส่วนจากส.ส.เขต ซึ่งหลักใหญ่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นคนคิดรายละเอียดการคำนวณ ยืนยันว่าวิธีการคำนวณไม่ยาก และให้ประชาชนเข้าใจว่าคำนวณอย่างไรก็น่าจะเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดในเชิงลึก

“การคิดคะแนนแบบใหม่ บัตรทุกบัตรจะมีความหมาย แต่ก็แปลกใจว่าเหตุใด ไม่คำนึงถึงการลงคะแนนไม่เลือกใครเลย เพราะในครั้งนี้การลงคะแนนไม่เลือกใครเลย จะมีอิทธิฤทธิ์สูง เพราะถ้าในเขตเลือกตั้งใดลงคะแนนไม่เลือกใครเลยมากกว่า จะเป็นโมฆะทั้งหมดและต้องเลือกตั้งใหม่ ซึ่งผู้สมัครคนเก่าไม่สามารถสมัครใหม่ได้ จึงถือว่าครั้งนี้คะแนนเสียงของประชาชนจะมีความเด็ดขาดจริง ๆ และจะทำให้พรรคการเมืองต้องเลือกคนที่ถูกใจประชาชนจริง ๆ ไม่ใช่ถูกใจพรรค เพราะประชาชนจะดูทั้งพรรคทั้งตัวบุคคล ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากกว่าที่เคยมีมา”

ส่วนที่หลายพรรคมองว่ายังมีปัญหาเรื่องการปฏิบัติและกรธ.น่าจะเป็นผู้เสนอให้มีการแก้กฎหมาย นายมีชัย กล่าวว่า กรธ. ไม่มีสิทธิ์เสนอ และถ้าจำเป็นต้องแก้กฎหมาย ทางกกต.ต้องเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เข้าชื่อกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูไปก่อน และในขณะนี้ถือว่ายังไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติ และปัญหาไม่ใช่มาจากการเขียนกฎหมาย ปัญหาอยู่ที่เรื่องของคำสั่งคสช. ที่ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองเต็มที่ ซึ่งหากระยะเวลาของพรรคการเมืองไม่เพียงพอสามารถขยายเวลาได้
ส่วนคสช.ควรจะปลดล็อกให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะคสช.ยังมีเหตุผล ซึ่งที่ผ่านมาเคยพูดคุยกัน แต่ฝ่ายความมั่นคงต้องพิจารณาหลายด้าน