ใกล้ได้ข้อสรุป! คดีลอตเตอรี่ 12 ล้านหาย

ใกล้ได้ข้อสรุป! คดีลอตเตอรี่ 12 ล้านหาย

ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว!! มหากาพย์คดีลอตเตอรี่หาย 12 ล้าน รอเพียงผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝง

ความคืบหน้ากรณีหนุ่มอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวนเงิน 12 ล้านบาท ถูกขโมยหายไปจนถึงขณะนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวหนุ่มผู้เสียหาย สองสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ดที่ถูกลอตเตอรี่ชุดเดียวกัน และเยาวชนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยสลากฯ และลอตเตอรี่เจ้าปัญหาส่งตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงแล้ว คาดทราบผลและสรุปคดีได้ในเร็วๆ นี้

แม้ว่าวันนี้หลายคนจะโชคดีถูกลอตเตอรี่และกลายเป็นเศรษฐีคนใหม่ แต่เรื่องราวมหากาพย์ลอตเตอรี่เจ้าปัญหา 12 ล้านบาท ที่นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี หนุ่มชาวต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าถูกคนร้ายลักขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งจะสามารถขึ้นเงินได้ 12 ล้านบาท โดยเบื้องต้นสงสัยว่าเยาวชนซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเป็นคนขโมย กระทั่งต่อมาได้มีสองสามีภรรยาชาว จ.ร้อยเอ็ด นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลชุดเดียวกันไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ โดยทั้งสองก็ยืนยันว่าเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่เช่นเดียวกัน แต่เป็น 3 ใบ ไม่ใช่ 2 ใบ ได้เงินรางวัล 18 ล้านบาท ทำให้เรื่องราวเกิดตาละปัดจนต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่จนขณะนี้เวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

ล่าสุด พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้พานายพันธุ์ศักดิ์ หนุ่มที่แจ้งความว่าลอตเตอรี่ถูกขโมย รวมถึงสองสามีภรรยาที่ยืนยันว่าถูกลอตเตอรี่ชุดเดียวกัน รวมถึงเยาวชนวัย 14 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าขโมยลอตเตอรี่ พร้อมทั้งได้ประสานขอลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวจากกองสลากฯ เพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงที่กองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ขณะนี้รอเพียงการยืนยันผลตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงมายังพนักงานสอบสวน ซึ่งก็คาดว่าจะทราบผลตรวจพิสูจน์ในเร็วๆ นี้

ซึ่งหากผลตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงยืนยันออกมาแล้ว ก็จะสามารถสรุปคดีได้ว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเป็นของใคร ซึ่งก็เชื่อว่าทุกฝ่ายก็คงจะยอมรับ ส่วนขั้นตอนทางคดีทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องสรุปสำนวนส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ส่วนจะมีการแจ้งข้อหากับบุคคลใดหรือไม่อย่างไร ก็ต้องดูที่เจตนาอีกครั้ง