คนร้ายใช้ปืนเอสเค ซุ่มยิงพ่อค้ารับซื้อขี้ยางดับ

คนร้ายใช้ปืนเอสเค ซุ่มยิงพ่อค้ารับซื้อขี้ยางดับ

คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอสเค ดักซุ่มยิงพ่อค้ารับซื้อขี้ยางดับ ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส คาดปมขัดแย้งส่วนตัว

เมื่อเวลา 08.26 น. วันที่ 15 พ.ย.60 ร.ต.อ.ชยุต แก้วนุ้ย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงชาวบ้านเสียชีวิต ริมถนนสายตันหยงมัส–ดุซงญอ บริเวณบ้านเจ๊ะเก ม.2 ต.บาโงสะโต จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ พ.อ.อิศนา จันทะกระยอม ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาวแดง ทะเบียน ขธร 534 นราธิวาส ล้มตะแคงอยู่ริมถนน โดยมีเครื่องดื่มน้ำอัดลมจำนวนหนึ่งตกกระจายจากเบาะนั่ง พร้อมกองเลือดที่พื้นถนนข้างรถ จยย.

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเซะ มือลี อายุ 66 ปี อาชีพรับซื้อขี้ยาง และเปิดบ้านขายของชำ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอสเค 33 ที่บริเวณลำตัวและศีรษะ พลเมืองดีได้นำศพส่งโรงพยาบาลระแงะ ไปก่อนแล้ว

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอสเค 33 จำนวน 5 ปลอก โดยจุดแรกพบข้างศพผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ปลอก และห่างออกไปอีกประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นพงหญ้ารกทึบริมถนนที่เป็นจุดคนร้ายดักซุ่มยิงอีกจำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้าน โดยให้ภรรยาซึ่งทำงานที่ศูนย์เยียวยาประจำ อ.ระแงะ นั่งซ้อนท้ายเพื่อไปส่งยังที่ทำงาน หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.ไปซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปวางจำหน่ายที่ร้านขายของชำ โดยระหว่างที่ผู้เสียชีวิตขี่รถ จยย.กลับร้าน ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มอยู่ในพงหญ้ารกทึบริมถนน ใช้อาวุธปืนเอสเค 33 ออกมายิงใส่ผู้เสียชีวิตจำนวน 3 นัด ทำให้รถ จยย.เสียหลักล้มไถลไปตามถนนห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร คนร้ายก็ได้เข้าไปจ่อยิงศีรษะซ้ำอีก 2 นัด จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป

พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า น่าจะมาจากปมเหตุความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลูกชายและลูกเขยของผู้เสียชีวิต เคยถูกคนร้ายดักซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป