ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง

ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง

หลังอีไอเอเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันพุธ(8พ.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวลง39 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดตลาดที่ 56.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 25 เซนต์ ปิดที่ 63.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อีไอเอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล เทียบกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล

อีไอเอ  ยังระบุด้วยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่จีนนำเข้าน้ำมันต่ำสุดในรอบ 1 ปี

ทั้งนี้ สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานว่า จีนนำเข้าน้ำมันจำนวน 7.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบีย และอิหร่าน รวมทั้งการที่กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

ทางการซาอุดิอาระเบีย กล่าวหาเลบานอนประกาศสงครามต่อซาอุดิอาระเบีย อันเนื่องจากการรุกรานของกลุ่มฮิสบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

ทั้งนี้ เลบานอน ถูกดึงเข้าสู่ปมปัญหาความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน นับตั้งแต่ที่นายซาอัด อัล-ฮารีรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ได้กล่าวหาอิหร่าน และกลุ่มฮิสบอลลาห์ในแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งของเขา

ขณะเดียวกัน ซาอุดิอาระเบีย ประกาศปิดชายแดน รวมทั้งน่านฟ้าและน่านน้ำที่ติดกับเยเมน หลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธจากเยเมนเข้าใส่กรุงริยาดชองซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งซาอุดิอาระเบียเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว

นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ซึ่งจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียต่างสนับสนุนให้มีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า