MORNING CALL ACTION NOTES (6 พ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (6 พ.ย.60)

เลือกเล่นรายตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวกรอบแคบมาปิดลบเล็กน้อย มีกลุ่ม PETRO และ ENERG หนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น แต่ยังมีแรงกดดันต่อเนื่องจาก ICT ส่วน Fund Flow ยัง net sell โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,701.47 จุด (-0.46 จุด) Volume 5.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –2,326.6 ลบ.  TFEX Net -4,686 สัญญา ตราสารหนี้ -2,823 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิล อิงค์ และตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งดัชนีภาคบริการของ ISM ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก.ย.

+น้ำมันดิบปิดทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีหลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

-สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าคาดไว้ และยอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. สู่ระดับ 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติ Net Sell 8 วันติดต่อกันที่เกือบ 1.22 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทกอ่อนค่าลงสู่ 33.14 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือนก.ย. ราว  1.03 แสนสัญญา)

**6 พ.ย. อียูจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.

**8 พ.ย.กำหนดประชุมกนง. ตลาดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากตลาดต่างประเทศขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ราคาน้ำมันปิดทำ high แต่ยังมีปัจจัยกดดันจาก fund flow ที่ยังผันผวน   คาดวันนี้ SET จะอ่อนตัวลง โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,692-1,710 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP

- มาตรการช็อปช่วยชาติ CPALL COM7 SYNEX ROBINS HMPRO MAKRO BJC MINT

- ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูงที่ 99.0$/Ton BANPU

- การปฎิรูปภาษีของสหรัฐ IVL EPG

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ BCPG  HARN FTE  ATP30 COMAN XO TPCH SYNEX ASIMAR  JWD  ERW CKP CPN  SPALI

หุ้นแนะนำพิเศษ

D (ราคาปิด 9.35 ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.22 บาท)

  • ฝ่ายวิจัยประมาณการเติบโตของรายได้ราว 461 ล้านบาท เติบโต 5%ใกล้เคียงกับเป้าเติบโตใหม่ของผู้บริหาร และคาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 50 ล้านบาท เติบโต 19% 1H60 มีกำไร 22.5 ล้านบาท +14%YoY คิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรทั้งปี  ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q60 คาดจะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และน่าจะเติบโตต่อเนื่องใน Q4 ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังมีการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรายได้ของสาขาเดิมและสาขาใหม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • ปี 61 คาดกำไรสุทธิราว 58 ล้านบาท +16% โดยผลการดำเนินงานในปี 62 มีปัจจัยสนับสนุนจากโรงพยาบาลทันตกรรมย่านเพลินจิตที่จะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติและลูกค้าคนไทยระดับบน

Analyst Meeting : HMPRO (ราคาปิด 12.30 IAA consensus สูงสุด 15.50)

  • อัตราการเติบโตของยอดขาย (Same Store Sale Growth : SSSG) พลิกเป็นบวก2.8% ใน 3Q60  และบวกต่อเนื่องในช่วงต้นไตรมาส 4Q60  แต่ตัวเลข 9M60  SSSG ยังติดลบ 2.1%  เนื่องจาก -6.3% ใน 2Q60  และ -2.5% ใน 1Q60 ทั้งนี้ยอดขายในช่วง 9M60 เติบโต 5%YoY
  • กำไรสุทธิ 9M60 3,360 ล้านบาทเติบโต 20% สูงกว่าการเติบโตของยอดขายที่เติบโต 5% เนื่องจาก GP ปรับดีขึ้นเป็น 26.1% จาก 25.3% ใน 9M59 %SG&A ลดเหลือ 22.8% จาก 23% ใน 9M59 และดอกเบี้ยจ่ายลดลง 8%yoy จากการ refinance
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตของยอดขายในอนาคตแผนการเปิดสาขาใหม่ยังคงเป็นไปแบบระมัดระวังโดยเน้นเปิดสาขาขนาดเล็ก (Homepro S) ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขายได้ดีขณะที่ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าสาขาขนาดใหญ่  ทั้งนี้กำไร 4Q60 มีแนวโน้มดีเนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และการจัดงาน HomePro Expo ระหว่าง 17-26 พ.ย.  โดยมีปัจจัยหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นสนับสนุนการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี

หุ้นมีข่าว   

·       IRPC (ราคาปิด 6.45 Bloomberg Consensus 6.75) รายงานกำไร 3Q60 ที่ 3.24 พันล้านบาท +144%YoY +164%QoQ โดยได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นรวมที่ปรับตัวขึ้น 1.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 2Q60 สู่ 15.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจานี้ยังได้รับแรหนุนจากกำไรสต๊อกน้ำมันดิบหลังหักขากดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงอีกราว 600 ล้านบาท

·       ความเห็น เราคาดว่าค่าการกลั่น 4Q60 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามส่วนต่างน้ำมันสำเร็จรูปทุกประเภทที่ลดลงเฉลี่ย 8-9%QTD และราคาน้ำมันที่ผันผวนทำให้ในไตรมาส 4 กำไรจากสต็อกน้ำมันดิบไม่สูงเท่า 3Q60

·       SPRC (ราคาปิด 16.80 Bloomberg Consensus 18.13)  ไตรมาส 3/60 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.82 พันลบ. เติบโต 140%YoY  เนื่องจากค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น 58%YoY มาอยู่ที่ระดับ 8.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากสต๊อกน้ำมันดิบอีก 400 ล้านบาท

·       ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา สคร.มั่นใจยื่นไฟลิ่งตั้ง"ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์"ทันปีนี้และพรัอมเสนอขายหน่วยลงทุนต้นปี 61 และคณะกรรมการ PPP คาดเสนอให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา บางใหญ่ – กาญจนบุรี นครปฐม – ชะอำ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - วงแหวนกาญจนาภิเษก และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี ได้ภายในปี 2561

Analyst Meeting : BBL (ราคาปิด 192 Bloomberg Consensus 207)

·       ผู้บริหารยืนเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 60 ที่ราว 4% แม้ 9M60 สินเชื่อทรงตัว YTD จากการประเมินว่าความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จะเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่น

·       NPL ยังเติบโตต่อเนื่องใน 4Q60 จากกลุ่มลูกค้า SME โดยคาดจะสูงสุดราวปลายปีหรือในช่วง1Q61 อย่างไรก็ดี NPL เกิดใหม่แบบชะลอตัว  ส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญยังต้องติดตาม NPL ว่าสูงสุดแล้วหรือยัง 9M60 คชจ.หนี้สูญ +46%YoY

·       ดีล AIA เริ่มมีผลใน Q4 ช่วยเสริมรายได้ค่าธรรมเนียมให้เติบโตจากฐานที่ต่ำเนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี

·       ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องในปี 61 ทำให้ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนและมีความต้องการสินเชือเพิ่มขึ้น  คาดกำไรปี 60 มีแนวโน้มทรงตัว แนะนำ ถือ

·       TCAP (ราคาปิด 52 IAA Consensus 52.89)

·       9M60 มีกำไร 5,065 ลบ. +17%YoY จากการลดลงของคชจ.สำรองหนี้สูญที่ลดลง 19%YoY จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับดีขึ้นโดยมี %NPL ลดเหลือ 2.21% จาก 2.41% ณ ปลายปี 59 และ Coverage Ratio 143% ลดลงเล็กน้อยจาก 147% ณ ปลายปี 59 ขณะที่อัตราส่วนสำรองต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์อยู่ที่ 172%

·       รายการพิเศษในการขายเงินลงทุนใน MBK จะมีใน Q3 ต่อ Q4 เป็น upside จากกำไรปกติ โดยส่วนใหญ่ขายในเดือนต.ค. ส่วนปี 61 tax shield จะหมดราว Q2 ต้องเริ่มกลับมาจ่ายภาษี

·       ความเห็น loan growth 9M60 +1.11%YTD แนวโน้มทั้งปีน่าจะต่ำกว่าเป้า 3-5% ขณะที่ Bloomberg คาดกำไรปี 60 เติบโต 12% เป็น 6.7 พันล้านบาท แนะนำ ถือ Yield 4.2%