ค่าบาท 'แข็งค่า' ตลาดติดตามธนาคารกลางต่างประเทศ

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดท้ายสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 33.30 บาท ต่อดอลลาร์จากคาดการณ์ประธานเฟดและปัญหาการเมืองสหรัฐ ในสัปดาห์นี้สิ่งที่ต้องจับตาคือการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ

โดยในวันจันทร์-อังคาร การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คาดว่าจะมีการ “คง” นโยบายการเงินทั้งหมด ทั้งดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% และเป้าหมายบอนด์ยีลด์ระยะยาวที่ 0.0% และอาจมีการปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในญี่ปุ่นลง (ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.7% ขณะที่ตัวเลขล่าสุดยังต่ำกว่า 1.0%) ซึ่งหมายความว่าการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายจะยังคงอยู่ต่อไปในญี่ปุ่นแม้ธนาคารกลางอื่นจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม

ถัดมาในวันพุธ-พฤหัส ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดการประชุมนโยบายการเงินเช่นกัน อย่างไรก็ตามคาดว่าเฟดจะ “คง” นโยบายการเงินเช่นเดิม (ดอกเบี้ยที่ระดับ 1.25%) โดยตลาดมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปในเดือนธันวาคม และยังต้องลุ้นว่าใครจะเข้ามาเป็นประธานเฟดต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งอาจส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในอนาคต

ส่วนของธนาคารกลางอังกฤษ ตลาดคาดว่ามีโอกาสที่จะ “ขึ้น” ดอกเบี้ยจาก 0.25% เป็น 0.50% ในการประชุมวันพฤหัสนี้ จากปัญหาเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ในวันศุกร์จะมีการตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ เชื่อว่าการจ้างงานจะกลับขึ้นมาอยู่ในระดับสูงหลังจากผ่านช่วงพายุเฮอริเคนไปแล้ว การว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 4.2% ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะฟื้นขึ้นมาถึงระดับ 3 แสนตำแหน่ง และค่าจ้างเฉลี่ยมีโอกาสปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนที่ผ่านมา

สำหรับค่าเงินดอลลาร์มีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงเป็นบวกและนโยบายภาษีที่จะมีการประกาศในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามความผันผวนจะมีมากขึ้นเพราะการเปลี่ยนตัวประธานเฟด ซึ่งโดนัลด์ทรัมป์เคยบอกว่าจะมีการประกาศชื่อภายในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันก็ยังคงมีแรงกดดันจากภาคการเมืองเรื่องการแทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐจากรัสเซียซึ่งอาจกระทบให้ตลาดเกิดความไม่มั่นใจอีกครั้ง

กรอบเงินดอลลาร์รายวัน 33.18 - 33.28 บาทต่อดอลลาร์กรอบเงินดอลลาร์รายสัปดาห์ 33.00 - 33.50 บาทต่อดอลลาร์