ราคาน้ำมันดิบปิดดิ่งกว่า 1%

ราคาน้ำมันดิบปิดดิ่งกว่า 1%

จากแรงขายทำกำไร หลังราคาดีดตัว 2 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 51.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 84 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดตลาดที่ราคา 57.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง, การคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าไตรมาสแรกของปีหน้า รวมทั้งจากปัจจัยการผลิตน้ำมันที่ลดลงของสหรัฐ

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐดิ่งลง 11% สู่ระดับ 8.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2557 เนื่องจากมีการปิดโรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโกขณะที่เกิดพายุโซนร้อนเนท

ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 743 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 456.5 ล้านบาร์เรล

นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการของกลุ่มโอเปก กล่าวว่า ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลในอัตราที่รวดเร็วขึ้น และเขายังมองไม่เห็นจุดสูงสุดสำหรับอุปสงค์น้ำมันในอนาคตอันใกล้ และมีความเชื่อมั่นว่า ราคาและความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกแข็งแกร่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ โอเปกคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 96.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้