‘เอพี’ชูเทคโนฯมิตซูบิชิต่อยอดนวัตกรรมคอนโด

‘เอพี’ชูเทคโนฯมิตซูบิชิต่อยอดนวัตกรรมคอนโด

การจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง “เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยร่วมกัน นับตั้งแต่ปี 2557 ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งด้านพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีหลากหลายแนวคิดจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาพัฒนาคอนโดมิเนียมเอพี

วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของเอพี คือการสร้างสรรค์และพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกมิติ

แนวทางการพัฒนาคอนโดของเอพี ได้ทำงานร่วมกับมิตซูบิชิฯ ในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นมาใช้สร้างสรรค์คอนโดในไทย ปัจจุบันลงทุนโครงการร่วมกันไปแล้ว 11 โครงการ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท  

นวัตกรรมที่เอพี ต่อยอดจากพันธมิตรญี่ปุ่น คือ การก่อสร้างสำเร็จรูป (Prefabrication) สิ่งที่นำมาใช้แล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ ห้องน้ำสำเร็จรูป ในคอนโดแบรนด์ Aspire และ Life  ปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับดี โดยเฉพาะมาตรฐานการผลิตและติดตั้ง ที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับการก่อสร้างห้องน้ำปกติ

เทคโนโลยีการผลิตโปรดักท์สำเร็จรูปในโครงการที่อยู่อาศัยของญี่ปุ่นมีการพัฒนาวัสดุใหม่ๆ ที่น้ำหนักเบาและคงทน ซึ่งล้ำหน้ากว่าการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน เป็นนวัตกรรมที่เอพี จะนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในไทยต่อไป

รูปแบบห้องน้ำสำเร็จรูป เวอร์ชั่นต่อไป จะพัฒนาให้หรูและมีดีไซน์มากขึ้น ทั้งวัสดุผิวสำเร็จรูป ฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเช่นเดียวกับญี่ปุ่น เพื่อนำมาใช้ในคอนโดแบรนด์หรูในอนาคต 

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของญี่ปุ่น เป็นการทำงานตามระบบเช็คลิสต์ ที่ไม่ใช่การใช้วิจารณญาณของคน แต่เป็นเรื่องของศาสตร์ในการทำงานที่มีความแม่นยำและมาตรฐาน ซึ่งเอพีได้นำมาต่อยอดโปรเจคร่วมทุนในไทย”

โปรดักท์คอนโด เอพีให้ความสำคัญด้าน "นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี" ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลาง  เพื่อประโยชน์ใช้สอยของลูกบ้าน  ซึ่งมาจากการออกแบบของผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่เพียงการออกแบบเพื่อความสวยงามเท่านั้น โดยมีทีมที่พัฒนาการออกแบบเองและนำแนวคิดของมิตซูบิชิฯ ที่พัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ไปปฏิบัติตาม 

 แนวทางการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง เช่น การให้บริการไวไฟ พื้นที่ชาร์จอุปกรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล รวมทั้งพื้นที่ โค เวิร์กกิ้ง ที่มีเซอร์วิสอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เป็นการออกแบบเพื่อให้การใช้ชีวิตในทุกพื้นที่ในโครงการให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน

วิทการ กล่าวว่าเอพี ยังได้ต่อยอดแนวคิดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED) ในคอนโดของเอพีที่ส่งมอบไปแล้ว รวมถึงคอนโดโครงการอื่นๆ ที่บริหารจัดการโดย บริษัทสมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมนเนจเมนท์ จำกัด บริษัทบริหารจัดการอสังหาฯในเครือเอพี กว่า 40 โครงการ คิดเป็นผู้อยู่อาศัยกว่า 25,000 ครอบครัว เพื่อป้องกันอันตรายจาก“ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน”

การติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติในโครงการ เป็นแนวคิดที่ได้มาจากพันธมิตรมิตซูบิชิฯ ที่ติดตั้งเครื่อง AED ในโครงการที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นเช่นกัน 

พร้อมทั้งส่งเสริมให้การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในคอนโดเอพีให้สะดวกสบาย เช่น นวัตกรรมการรับ-ส่งสินค้าผ่านตู้ฝากของอัจฉริยะ i-Locker ที่ผู้ส่งและผู้รับสามารถเข้าถึงการใช้งานด้วยตนเองได้ตลอด 24 ช.ม. ผ่านเอพีแอพพลิเคชั่น

แนวคิดสำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของ มิตซูบิชิฯ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครือ “มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนท์” คือการทำงานของ Eye's Plus Lab  ศูนย์วิจัยเพื่อการค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์  เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์ใหม่ในคอนโด

การทำงานของศูนย์ฯ เป็นการฟังเสียงผู้บริโภคจากการสอบถามข้อมูลเชิงลึก ว่าต้องการอะไร  จากนั้นนำมาวิเคราะห์ร่วมกับมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ในแผนกพัฒนาโปรดักท์เพื่อสร้างสรรค์และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น

เอพี ได้นำนำหลักการของมิตซูบิชิฯ มาต่อยอด ด้วยการ “ฟังเสียงจากลูกค้า” โดยเริ่มพัฒนา “เอพี ดีไซน์ แล็ป” ซึ่งเป็นกระบวนการนำลูกค้าและลูกบ้านมานั่งคุยร่วมกับทีมพัฒนาโปรดักท์ เพื่อวิเคราะห์ความต้องการลูกค้าและทำให้คอนโดตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติ

“กระบวนการทำงานและพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยของเอพีและมิตซูบิชิฯ  มาจากการเข้าใจผู้บริโภคและเจาะกลุ่มที่ชัดเจน เป็นการทำตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าไม่ใช่การตลาดแบบแมส เพราะยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า ความเข้าใจลูกค้าจะสำคัญมากขึ้น”