ราคาน้ำมันดิบปิดร่วง1.4%

ราคาน้ำมันดิบปิดร่วง1.4%

ราคาน้ำมันดิบปิดร่วง1.4% หลังอีไอเอเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสวนทางช้อมูลเอพีไอ

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ  ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (12ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ระบุว่าพุ่งขึ้นกว่า 3 ล้านบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ราคา 50.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 62 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 56.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ อีไอเอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 462.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่เอพีไอ ระบุว่าเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล เทียบกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 480,000 บาร์เรล

สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน หลังจากดิ่งลงในสัปดาห์ที่แล้ว

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซีย รวมทั้งผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศ ได้ปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด

นักลงทุนคาดการณ์ว่า โอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าไตรมาสแรกของปีหน้า

โอเปก มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าตลาดกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะสมดุล โดยได้แรงหนุนจากความร่วมมือกันลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รวมทั้งจากการที่อุปสงค์โลกอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง