อุตฯเหล็กกล้าโลกเจอความเสี่ยงเพิ่ม

อุตฯเหล็กกล้าโลกเจอความเสี่ยงเพิ่ม

อุตฯเหล็กกล้าโลกเจอความเสี่ยงเพิ่ม หลังกำลังการผลิตนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น

แหล่งข่าวและผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า หลังจากภาคเหล็กกล้าทั่วโลกเคยประสบภาวะตกต่ำเพราะเหล็กกล้าล้นตลาด ภาคเหล็กกล้าทั่วโลกก็ฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าในจีน

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวนี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยง เนื่องจากมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตส่วนเกินในภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชีย

ทั้งนี้ จีนระบุว่า จีนได้ปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าแบบถูกกฎหมายลงไปแล้วเกือบ 100 ล้านตัน และปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าคุณภาพต่ำที่ผิดกฎหมายไปแล้ว 120 ล้านตันนับตั้งแต่เดือนม.ค.แต่กำลังการผลิตเหล็กกล้าทั่วโลกขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ระบุในรายงานล่าสุดว่า กำลังการผลิตเหล็กกล้าทั่วโลกอยู่ที่ 2.36 พันล้านตันในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 โดยขยับลงเพียง 0.6% จาก 2.37 พันล้านตันในปี 2559 ขณะที่แหล่งข่าว กล่าวว่า ตัวเลขนี้อาจจะไม่ได้สะท้อนผลกระทบอย่างเต็มที่จากการปรับลดกำลังการผลิต แต่เขากล่าวว่า กำลังการผลิตที่สูงเกินไปในตลาดโลกถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

นายลีเวน ท็อป ประธานคณะกรรมการเหล็กกล้าของโออีซีดี กล่าวในช่วงปลายเดือนที่แล้วว่า กำลังการผลิตยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไปเป็นอย่างมาก

โออีซีดี ระบุในรายงานกำลังการผลิตเหล็กกล้าว่า มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตราว 23 ล้านตันในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอิหร่านในช่วงนี้ และกำลังการผลิตนี้จะเริ่มเปิดการผลิตได้ในปี 2560-2562 และมีการวางแผนว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 7 ล้านตันในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้อาจจะเป็นการผลิตเพื่อส่งออกในบางส่วน ในขณะที่สมาคมเหล็กกล้าโลกประเมินว่า อุปสงค์เหล็กกล้าในภูมิภาคตะวันออกกลางอาจเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 ล้านตันในปีนี้และปีหน้า

อิหร่าน เพิ่งกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกเหล็กกล้าสุทธิเป็นครั้งแรกในปี 2559 และอิหร่านตั้งเป้าที่จะส่งออกเหล็กกล้า 20-25 ล้านตันต่อปีภายในปี 2568 หรือเกือบ 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งออกเหล็กกล้าของจีนในปีนี้