MORNING CALL ACTION NOTES (22 ก.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (22 ก.ย.60)

Fund Flow ชะลอตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวผันผวนหลัง FED คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1 – 1.25% แต่เปิดโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ประกอบกับสัญญาณ Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัว ส่งผลให้ SET ปิดลบเล็กน้อยที่ 1,670.49 จุด (-0.16 จุด) Vol. 5.4 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +145 ลบ.  TFEX Net +9,553 สัญญา ตราสารหนี้  +2,662 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนส.ค. +13.2% อยู่ที่ 21,224 ล้านUSD สูงสุดในรอบ 55 เดือน การนำเข้า+14.9% มีมูลค่า 19,134 ล้านUSD ส่งผลให้เกินดุลการค้าราว 2,090 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับช่วง 8 เดือนแรกปี60 การส่งออก +8.9% การนำเข้า +15.4%

+ ยอดส่งออกรถยนต์เดือนส.ค.+9.26%YoY เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 14 เดือน

+ ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 124.13 จากเดือนก่อนหน้าที่ 104.01 เหตุเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว และมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาต่อเนื่อง

+/- ราคาน้ำมันทรงตัวล่าสุด 50.6 US/Barrel เนื่องจากรอผลการประชุมกลุ่ม โอเปกในวันนี้เพื่อพิจารณาการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

- ตลาดหุ้น DJ  ปรับตัวลง หลัง FED อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. รวมถึงสหรัฐออกคำสั่งคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่วานนี้

+ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตอบรับผลการประชุมเฟด

+/- Foreign เป็น Net Buy ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ราว 1.1 หมื่นลบ. ส่วน TFEX เป็น Net Short ราว 7.6 หมื่นสัญญา

** สัปดาห์นี้คาดสหรัฐฯเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษี

**  24ก.ย. เลือกตั้งเยอรมัน โพลล์คาดพรรค CDU จะชนะการเลือกตั้ง

ภาวะตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นทั้งการส่งออกและดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่เริ่มชะลอตัว รวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนในกรอบ 1,665 - 1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มนิคม (AMATA WHA) ครม.เห็นชอบพรบ. EEC

- PDI ราคาสังกะสีรีบาวด์ขึ้น +5.6% WoW ล่าสุด 3,155 US/Ton

- PSL TTA ค่าระวางเรือขึ้นทำ High รอบ 2 ปีล่าสุด 1,470 จุด

- กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ราคาน้ำมันอยู่ระดับสูงเหนือ 50 US/Barrel

- CPN ได้รับเงินประกันภัยการก่อการร้าย 3.5 พันลบ.จากเหตุเพลิงไหม้เซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 แล้ว

หุ้นแนะนำพิเศษ

PSTC (ราคาปิด 0.82 ซื้อ ราคาเหมาะสม 0.90)

  • บริษัทดำเนิน 2 ธุรกิจ 1)ธุรกิจออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า (ระบบสำรองไฟฟ้า และระบบประหยัดพลังงาน) มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 72 และ 2)ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนสัดส่วนรายได้ร้อยละ 28 โดยมีกำลังการผลิตรวม 41 MW
  • บริษัทมุ่งเน้นขยายธุรกิจไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงและความเสี่ยงต่ำ โดยบริษัทมีกำลังการผลิต 41 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 MW โรงไฟฟ้าชีวมวล 15 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 MW) และโรงไฟฟ้าชีวภาพ 11 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 5 MW) โดยตั้งเป้า 100 MW ภายในปี 61
  • ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการจะ Turnaround ในปี 60 จากการรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการ 1H60 อยู่ที่ราว 23 ล้านบาท เติบโต 30%YoY โดยเราคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 53 ล้านบาทเติบโต 236%YoY และผลประกอบการมีโอกาสเติบโอย่างต่อเนื่องในปี 61 จากการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า SPP hybrid firm และ SPP semi firm ซึ่งเปิดประมูลใน ต.ค.60 และ ในปี 61 ตามลำดับ

หุ้นมีข่าว   

Ø  (+)TRC (ราคาปิด ถือ ราคาเหมาะสม 1.35) แจ้งได้รับงานปรับปรุงถนนประชาร่วมใจ-มิตรไมตรีมูลค่า 990.84 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญาได้ภายในไตรมาส 4/2560 ส่งผลให้ Backlog ทะลุ 7,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานต่อเนื่อง (ที่มาทันหุ้น)    

Ø  (+)TPCH (ราคาปิด 17.20 ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.74) ไม่หวั่นแม้การแข่งขันสูง ชูฐานแกร่งด้านโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังโอกาสคว้าประมูลโรงไฟฟ้าในโครงการ SPP Hybrid ตามเป้า เล็งพื้นที่ภาคใต้ 40 เมกะวัตต์ และอีสาน 20 เมกะวัตต์ อนาคตหวังกวาดได้ 100 เมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)    

Ø  ความเห็น คาดผลประกอบการ 2H60 อยู่ที่ราว 144 ล้านบาทเติบโต 44% จาก 1H60 เนื่องจากมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโรงไฟฟ้า PGP และ SGP กำลังการผลิตแห่งละ 9.2 MW ทำให้มีกำลังการผลิตรวมแตะ 52.8 MW และมีโอกาสกลับรายการด้อยค่าในตั๋วแลกเงิน 20 ล้านบาทใน 4Q60 ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการเพิ่มเติม 

Ø  FTE แย้มไตรมาส 3/60 กำไรจ่อทำนิวไฮรอบปีนี้ พร้อมปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โต 20% โชว์แบ็กล็อก 450 ล้านบาท เล็งรับรู้รายได้ปีนี้ 60% รุกเข้าประมูลอีก 200 ล้านบาท คาดชัดเจนปี 61 - 62 (ที่มา ข่าวหุ้น)

Ø  ความเห็น ผลประกอบการของ FTE ในงวด 1H60 มีรายได้รวมเติบโตที่ 12.6%YoY ต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่มีการปรับขึ้นจากเดิมที่คาดทั้งปี 60 โต 10%YoY สะท้อนมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อกำไรในช่วง 2H60 ที่มี Backlog สำหรับงานรับเหมาวางระบบดับเพลิงที่จะรับรู้รายได้รองรับแล้วถึง 270 ล้านบาท สูงกว่าในช่วง 1H60 ที่ทำได้ 138 ล้านบาท ผลประกอบการทั้งปี 60 จึงน่าจะมีโอกาสสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ว่าจะเติบโต 22%YoY จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร"

Ø  CPN (ราคาปิด 75.50 ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 75) แจ้งว่ากองทุนรวมธุรกิจไทย 4 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของสิทธิการเช่าโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยการก่อการร้าย (Terrorism) จำนวน 3,500 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว

Ø  ความเห็น บริษัทถือหุ้นในกองทุนรวมธุรกิจไทย 4 รายนี้ในสัดส่วน 23.58% ฝ่ายวิจัยคาดว่า CPN จะรับรู้เป็นรายได้อื่นในงบไตรมาส 3/2560 หนุนกำไรเติบโตก้าวกระโดด และเป็นอัพไซต์จากประมาณการกำไรปกติปี 60 ที่ราว  9,540 ล้านบาท เติบโต 3%YoY   และคาดจะเติบโต 20% เป็น 1.15 หมื่นล้านบาทในปี 61

Ø  SCB (ราคาปิด 153.50 Bloomberg Consensus 165.84) เผยไตรมาส 3/60 ตั้งสำรองหนี้ปกติ เหตุคุมเอ็นพีแอลได้ในระดับ 2% ชี้หนี้เสียจากรายใหญ่ไม่มี พร้อมยืนยันไม่มีหนังสือส่งมาจากแบงก์ชาติเพื่อให้ตั้งสำรองหนี้รายใหญ่รายหนึ่งเพิ่มเติม มีเพียงมาตรฐานการบัญชี IFRS9 ที่อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เตรียมเดินสายโรดโชว์สหรัฐฯ  (ที่มา ข่าวหุ้น)

  • ศาลล้มละลายมีคำสั่งอนุญาตให้ EARTH เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามคำร้อง โดยมีบจ. อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูฯ ขณะที่ EARTH ขอให้ศาลช่วยนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ต่างประเทศและเจ้าหนี้ภายในประเทศที่มีการดำเนินคดีกับ EARTH ในความผิดฐานผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายราว 6 หมื่นล้านบาทในวันที่ 27 ก.ย.นี้
  • IFEC เลื่อนชำระดบ.หุ้นกู้วงเงิน 3 พันลบ.ส่วนที่เหลือหลังจะครบกำหนด 22 ก.ย. เหตุมีการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัท
  • EFORL เผยถูกฟ้องคดีแพ่งกรณีขายหุ้น"ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง"เรียกคืนทุนทรัพย์ 385.77 ลบ.