ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนพุ่งสูงสุดรอบ 7 เดือน

ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนพุ่งสูงสุดรอบ 7 เดือน

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 19.34% พุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน ด้านซีอีโอคาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 3-4%

นายสันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและรองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 19.34% สูงสุดในรอบ 7 เดือน เพราะมุมมองของนักลงทุนทุกกลุ่มมีทิศทางขาขึ้น เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจน ทั้งเงินทุนไหลเข้าหลายประเทศในภูมิภาค ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหุ้นไทยขยับสูงขึ้น จึงหนุนให้ความเชื่อมั่นดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ

ทั้งนี้ นักธุรกิจยังรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 กันยายนนี้ โดยตลาดยังคาดการณ์ว่า กนง.อาจคงอัตราดอกเบี้ย 1.50% เพราะเงินเฟ้ออยู่ระดับต่ำ เศรษฐกิจยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และนักลงทุนยังกังวลความตึงเครียดการเมืองระดับโลกจากเกาหลีเหนือกับสหรัฐบนคาบสมุทรเกาหลี ผลการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีสุดสัปดาห์นี้ และผลประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่คาดว่าปัจจัยเหล่านี้อาจไม่เปลี่ยนแปลงมาก

นางภากร ปีติธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรฯ ตลท. กล่าวว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ซีอีโอ) ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2560 จะขยายตัว 3-4% แต่ยังรอลุ้นปัจจัยการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมองว่าภาคอุตสหากรรมมีแนวโน้มดีขึ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง เครื่องใช้ในครัวเรือนยังไม่ฟื้นตัวมาก เมื่อมีสัญญาณการลงทุนดีพ้นจุดต่ำสุดแล้วจากนี้ต้องรอดูการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินลงทุนทั้งการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) สนามบิน รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ท่าเรือ คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอยังกังวลปัจจัยเสี่ยงที่เผชิญจากครึ่งปีแรก ทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมืองโลก กำลังซื้อในประเทศอาจยังไม่ฟื้นตัว เพราะภาระหนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง เพราะสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลง จากไตรมาสแรกหนี้สินครัวเรือน 11.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,600 ล้านบาท นับว่าภาระหนี้สินลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 และเสถียรภาพการเมืองในประเทศ โดยซีอีโอยังมีมุมมองช่วง 6 เดือนหลังมีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่ารายได้ปีนี้ขยายตัว 6% ขณะที่การขยายการลงทุนทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศยังใช้กำไรสะสม สินเชื่อสถาบันการเงินและหุ้นกู้ในประเทศ