ยกเลิก 'ตม.6' พร้อมกันทุกด่านทั่วประเทศเที่ยงคืนนี้!!

พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พร้อมด้วย นายวิสิฏฐ์ บาลี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยาน สายสนับสนุนธุรกิจ พล.ต.ต. สิทธิชัย โล่กันภัย ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.จันทร์ชัย แดงประเสริฐ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ พร้อมด้วยผู้แทนสายการบิน ร่วมแถลงความพร้อมการยกเลิกบัตร ตม.6 สำหรับคนไทย ตามคำสั่ง คสช. ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน เป็นต้นไป และความคืบหน้าการขยายพื้นที่บริการผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ตามคำสั่ง คสช.ที่ 42/2560 แก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 18 ให้ยกเลิกการใช้บัตร ตม.6 สำหรับคนไทย ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สตม.การท่าอากาศยาน และสายการบินต่างๆ มีความพร้อมที่จะการดำเนินการในทันที โดยจะยกเลิกการใช้บัตร ตม.6 สำหรับคนไทย ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้เป็นต้นไป ทั้งด่านทางบก ด่านทางอากาศ และด่านทางน้ำ หรือทุกด่านพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อลดความคับคั่งของผู้โดยสารที่รอรับการตรวจของ ตม.ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับปัจจุบัน สตม.มีการใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงระบบตรวจคนเข้าเมือง กับฐานข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฐานข้อมูลหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกระทรวงมหาดไทย และฐานข้อมูลหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยด้วยระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ทำให้การยื่นบัตร ตม.6 สำหรับคนไทยไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับในส่วนของชาวต่างชาติ สตม. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบของ บัตร ตม.6 เพื่อให้เกิดความเหมาะสมมากขึ้น โดยจะเริ่มใช้ บัตร ตม.6 แบบใหม่ในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ส่วนการยกเลิกบัตร ตม.6 สำหรับคนไทย และการปรับเปลี่ยนรูปแบบบัตร ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติ จะทำให้การบริการผู้โดยสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ส่วนการแก้ปัญหาความหนาแน่นของผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงเพิ่มขยายพื้นที่บริการผู้โดยสาร และช่องตรวจ ตม. ทำให้มีเคาน์เตอร์บริการผู้โดยสารเพิ่มจาก 21 ช่องตรวจ เป็น 35 ช่องตรวจ และช่องตรวจอัตโนมัติอีก 4 ช่องตรวจ และยังเพิ่มพื้นที่พักคอยจาก 1,100 ตร.ม. เป็น 1,710 ตร.ม. พร้อมทั้งการจัดเจ้าหน้าที่ ตม.จากด่านอื่นๆ มาเสริม ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งการท่าอากาศยานดอนเมือง สายการบินต่างๆ ที่ได้ร่วมมือกัน ทำให้การแก้ไขปัญหาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ ในเรื่องของระบบการตรวจผู้ต้องหาตามหมายจับ พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่มีระบบแบล็คลิส ซึ่งจะมีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อมีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หรือเข้ามา ระบบก็จะมีการแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ฯ ได้รับรู้รับทราบ และเจ้าหน้าที่ฯ จะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ดังนั้น บุคคลที่มีหมายจับไม่สามารถผ่านการตรวจไปได้

อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และท่าอากาศยานนานาสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจคนเข้าเมืองตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฯ ออกเป็น 4 ชุด 3 ผลัด เพื่อให้ครอบคลุม 24 ชั่วโมง สำหรับช่องตรวจอัตโนมัติมที่สนามบินดอนเมือง ใช้ได้เฉพาะคนไทย แต่สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้ชาวต่างชาติได้ใช้แล้ว อาทิ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศต่อไปที่จะใช้ได้คือฮ่องกง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อย่างกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส กระทิงแดง ที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ หากเดินเข้าประเทศไทย จะมีการแสดงแจ้งเตือนหรือไม่ พล.ต.ท.ณัฐธร ระบุว่า ในตอนนี้ทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายวรยุทธ ไม่ว่าจะเดินทางผ่านเข้ามา หรือออก ตามช่องทางที่ถูกต้อง ระบบก็จะแจ้งเตือนในทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมด้วย ส่วนนายวรยุทธ ได้เดินทางออกไปก่อนที่หมายจับจะออก ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยับยั้งการเดินทางของนายวรยุทธได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการเดินทางเข้าหรือออก ข้อมูลจะลิงค์กับฐานข้อมูลหมายจับ หากบุคคลใดมีหมายจับ ระบบก็จะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้หมายจับมาจะทำการกรองข้อมูลเข้าสู่ระบบทันที เมื่อกรองข้อมูลแล้วระบบก็จะทำการบันทึก

อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายประเทศที่ยกเลิกใบ ตม.6 แล้ว แต่หลายประเทศก็ยังต้องใช้อยู่ สำหรับประเทศที่ไม่ต้องทำใบ ตม.6 คือประเทศที่ต้องทำวีซ่า อาทิ อังกฤษ ออสเตรเลีย จำเป็นต้องขอวีซ่า ในขั้นตอนเหล่านี้ทำให้มีการเก็บข้อมูลตั้งแต่ต้นทางแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้บัตร ตม.6 แต่จากการศึกษาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ได้มีการยกเลิกบัตร ตม.6 มานานแล้ว และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์บัตร ส่วนต่างชาติยังต้องกรอกเพื่อประโยชน์ทางอาชญากรรมและการท่องเที่ยว