จนท.รวบเซียนไก่ชน พร้อมของกลางเกือบ 2 หมื่นเม็ด

จนท.รวบเซียนไก่ชน พร้อมของกลางเกือบ 2 หมื่นเม็ด

จนท.รวบเซียนไก่ชน นายหน้าค้ายาบ้าข้ามชาติยาบ้าเกือบ 20,000 เม็ด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย.60 หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.นครพนม) พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฝ่ายปราบปราม(ปป.) พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.ฯ พ.ต.อ.ธีฑัต อิ่มทั่ว พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ฯ และ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.ศรีสงคราม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จำนวน 2 ราย จากการติดตามกวาดล้างแก๊งค้ายาเสพติดระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก และยังซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการ จึงนำไปสู่การล่อซื้อจับกุมดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สืบสวนฯ ทราบจากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาซึ่งจับกุมก่อนหน้านี้ว่า นายวีรภัทร หรือ เตอร์ พรหมจอม อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเซียนไก่ชน มีพฤติการณ์ลักลอบค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) มาเป็นเวลานาน จึงส่งสายลับปลอมตัวเข้าไปติดต่อล่อซื้อ โดยอ้างว่าเป็นพ่อค้าไม้พะยูงจาก จ.สกลนคร ต้องการยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด เพื่อนำไปจำหน่าย เนื่องจากการค้าไม้พะยูงข้ามชาติถูกกวาดล้างจับกุมอย่างหนัก จึงอยากเปลี่ยนมาค้ายาบ้าบ้าง

ครั้งแรกนายเตอร์ไม่เชื่อว่าจะเป็นพ่อค้าค้าไม้พะยูงจริง แต่สายลับใช้ความพยายามนานร่วมเดือน จึงเชื่อว่าเป็นพวกเดียวกัน นายเตอร์ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังพ่อค้ายาบ้าในประเทศเพื่อนบ้าน ให้นำยาบ้ามาส่งตามจำนวนที่สายลับต้องการ กระทั่งในวันถูกจับกุม นายทุนยาบ้าโทรศัพท์บอกนายเตอร์ว่า ได้นำยาบ้าไปวางไว้ที่ป้ายชื่อถนนทางหลวงสาย 2132 บริเวณสามแยกศรีสงคราม-นาหว้า อยู่ในพื้นที่บ้านดงขวางหมู่ 9 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม ซึ่งห่างจากหมู่บ้านของนายเตอร์เกือบ 100 กม.


จากนั้นนายเตอร์ก็ติดต่อไปยังสายลับว่า ตอนนี้ยาบ้าที่ต้องการมาถึงฝั่งไทยแล้ว ขอให้นำเงินที่ตกลงกันไว้มาจ่ายด้วย โดยนัดจ่ายเงินกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง นายเตอร์จึงเอารถยนต์เก๋งของเมียขับออกจากบ้านไปรับเงิน ระหว่างนั้น นายลำพัง หรือทิศ รูปไธสง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 9 บ้านท่าลาด ต.บ้านแพง ซึ่งเป็นเพื่อนเซียนไก่ชน และมีบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำประจำหมู่บ้านอยู่ใกล้เคียงกัน ตะโกนถามว่าจะไปไหน นายเตอร์ตอบจะไปตลาดบ้านแพง นายทิศจึงขอติดรถไปด้วยเพื่อหาหมอที่โรงพยาบาลบ้านแพง

ขณะนั่งรถไปด้วยกันนั้น นายเตอร์อ้างขอแวะร้านสะดวกซื้อในตลาดหาเพื่อนก่อน นายทิศจึงนั่งรออยู่ในรถ จากนั้นนายเตอร์ก็ไปพบสายลับที่มายืนรอก่อนแล้ว พร้อมเปิดกระเป๋าให้ดูเงินนายเตอร์จึงโทรศัพท์ไปยังนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านว่าได้เงินแล้ว จึงบอกจุดที่นำยาบ้าไปวางทิ้งไว้ สายลับติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้ไปบริเวณดังกล่าว พบมียาบ้าอยู่จริงจึงแสดงตัวเพื่อจับกุมดังกล่าว พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปยัง สภ.ศรีสงคราม พื้นที่ที่พบยาบ้าเพื่อดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย

เบื้องต้นนายเตอร์รับสารภาพว่ารับจ้างเป็นนายหน้าติดต่อค้ายาบ้าจริง โดยได้รับค่าจ้างคิดเป็นร้อยละ 10 จากราคาบ้า รอบนี้ ค่ายาบ้า 1 ล้าน จะได้ค่าจ้าง 1 แสนบาท ลูกค้าซื้อมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดี ซึ่งตลอดเวลาระวังตัวมาก แต่ยังหลงกลสายลับที่มาล่อซื้อจนได้ ส่วนนายทิศเพื่อนที่ถูกจับกุมด้วย นายเตอร์อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน สำหรับยาบ้าของกลางมีจำนวน 17,683 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยยาบ้าจำนวนดังกล่าว หากเล็ดลอดเข้าพื้นที่ชั้นใน จะมีราคาเพิ่มสูงกว่า 1 ล้านบาทเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป