เหยื่อแชร์เฟซบุ๊ก13ราย แจ้งตร.ถูกท้าวแชร์เชิดเงินหนีรวม5ล้าน

เหยื่อแชร์เฟซบุ๊ก13ราย แจ้งตร.ถูกท้าวแชร์เชิดเงินหนีรวม5ล้าน

แม่บ้านพร้อมผู้เสียหายแชร์เฟซบุ๊ค 13 ราย โร่แจ้งความตำรวจ ปอศ. หลังถูกท้าวแชร์หลอกร่วมลงทุน สุดท้ายถูกเชิดเงินหลบหนีรวม 5 ล้าน แถมยังท้าทายหากเหยื่ออย่างได้เงินให้ร้องทุกข์เอาเอง

ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) - เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ก.ย.2560 น.ส.สาวิตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อาชีพแม่บ้าน พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 13 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เสกสรรค์ ศรีพุฒิกุลพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีกับนางกัลยาณี (สงวนนามสกุล) หลังถูกหลอกให้ร่วมเล่นแชร์โดยจะให้ดอกเบี้ยแต่กลับถูกเชิดเงินหนี โดยมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อหลายราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 5 ล้านบาท

น.ส.สาวิตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้เข้ากลุ่มเฟซบุ๊คที่ชื่อ "บ้านป้าเอ้ดอกทอก เรทไทย" โดยตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มอะไร แต่เมื่อเข้าไปก็พบว่ามีการโพสต์ชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยผู้ที่ใช้เฟซบุ๊คชื่อ "Lim Lim Home New" ตนจึงศึกษาก็พบว่ามีการชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยส่งเงินต้นแล้วรอรับดอกเบี้ยตามเรทที่ท้าวได้มีการตั้งไว้เป็นผลตอบแทน โดยผลตอบแทนที่ได้รับจำนวนมากสุดถึง 170 เปอร์เซ็นต์ ตนเห็นว่าน่าสนใจประกอบกับได้ผลตอบแทนดี จึงตัดสินใจลงทุนเป็นเงินไทย 2 แสนบาท และเงินริงกิตมาเลเซียจำนวน 1.8 แสนริงกิต รวมเป็นเงินไทย 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อเวลาพอผ่านไปได้ 2 เดือน ก็ยังไม่ได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย จึงได้ทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยบอกว่ายังไม่ถึงคิว แต่เมื่อทวงถามเรื่อยๆ กลับถูกท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอา จึงคิดว่าน่าจะถูกหลอกอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงได้รวมตัวกับผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่โดนในลักษณะเดียวกันจำนวน 13 ราย เข้าแจ้งความในวันนี้ โดยเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายจำนวนมากกว่านี้

"อยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่คิดจะลงทุนในลักษณะดังกล่าว หรือหากถูกชักชวนให้ลงทุนว่า ไม่มีอะไรที่มันได้มาง่ายๆ คำพูดที่เคยได้ยินเพื่อนพูดมาว่า เอาเงินทำเงินให้เรามันไม่มีอยู่จริง ต่อให้เขาจะการันตีแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใคร แล้วกรณีนี้อยู่ดีๆ เอาเงินตัวเองไปให้เขา พอล้มมาทุกอย่างก็จบ บางคนเสียครอบครัว เป็นหนี้เป็นสิน ฉะนั้นอย่าทำเลย มันไม่คุ้มกันหรอก" น.ส.สาวิตรี กล่าว

เบื้องต้นทางตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ดังกล่าวไว้ และสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด หากการกระทำความผิดนั้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ก็จะเชิญตัวนางกัลยาณี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหา “กระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” พร้อมทั้งทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป