เมเจอร์ฯชี้ คอนโดตลาดบนโต แรงหนุนต่างชาติซื้อบิ๊กล็อต

เมเจอร์ฯชี้ คอนโดตลาดบนโต แรงหนุนต่างชาติซื้อบิ๊กล็อต

อสังหาฯ ครึ่งปีหลังฟื้น รายใหญ่แห่เปิดโครงการ เมเจอร์ฯชี้ดีมานด์คอนโดตลาดบนโต กำลังซื้อนักลงทุนต่างประเทศซื้อบิ๊กล็อต เปิดตัว 2 โปรเจคใหม่ “มารุ” ลาดพร้าว-เอกมัย

นายสุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าธุรกิจอสังหาฯครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัว สะท้อนจากการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีจำนวนโปรเจคครึ่งปีหลังมากกว่า 6 เดือนแรก

ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 8 โครงการ โดยอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง 7 โครงการ รวมมูลค่า 11,000 ล้านบาท คาดปีนี้ทำยอดขายได้ 7,000 ล้านบาท

“มองว่าตลาดอสังหาฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโด ที่ยังมีดีมานด์ต่อเนื่องทั้งตลาดไทยและต่างชาติ” 

แม้ตลาดมีความกังวลเรื่องตัวเลขธนาคารปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัย(รีเจค) ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดกลางและล่าง  แต่พบว่าคอนโดตลาดบน ที่ระดับราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว  เช่นเดียวกับเมเจอร์ฯ ที่การทำตลาดในกลุ่มดังกล่าวไม่พบอัตรารีเจค 

นายสุริยา กล่าวอีกว่าปัจจุบันภาพรวมคอนโดระดับบน ที่ราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. หรือยูนิตละ 4-5  ล้านบาท,  กลุ่มลักชัวรี ราคา  2-2.5 แสนบาทต่อตร.ม.  และซูเปอร์ลักชัวรี ราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม. ขึ้นไป ในทำเล สุขุมวิท พหลโยธิน ลาดพร้าว ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีมีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าที่ 6-7% 

เดือน ก.ย.นี้ บริษัทเปิดพรีเซล 2 โครงการแบรนด์“มารุ” ทำเลลาดพร้าว อาคาร 30 ชั้น จำนวน 332 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,877 ล้านบาท  ราคาเริ่มต้น 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ มิ.ย.2564 และทำเลเอกมัย อาคาร 32 ชั้น  จำนวน 371 ยูนิต มูลค่าโครงการ  2,522 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.89 แสนบาทต่อตร.ม.  คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ ส.ค.2564

ทั้งนี้ โครงการที่เปิดพรีเซลช่วงครึ่งปีหลังวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 40% ซึ่งหลังปิดการขายราคาโครงการจะปรับขึ้นเฉลี่ย 15%

ต้นปีหน้าบริษัทร่วมทุน“ เอ็มเจดี-เจวี1”ที่เมเจอร์ฯถือหุ้น 51% ร่วมกับกลุ่มทุนสิงคโปร์และฮ่องกง เพื่อลงทุนคอนโด ซูเปอร์ ลักชัวรี ทำเลสวนลุม-พระราม4  ราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม. มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะได้รับความสนใจกลุ่มกำลังซื้อสูงในไทยและตลาดต่างประเทศ

นายสุริยา กล่าวว่าปัจจุบันเห็นกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อโปรเจคต่างๆของบริษัทมากขึ้น ทั้งการซื้อแบบรายย่อยและการซื้อบิ๊กล็อตของรายใหญ่ จากนักลงทุนจีน ฮ่องกงและสิงคโปร์ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า

ปัจจุบันโครงการต่างๆ ของบริษัทที่อยู่ในทำเลต่างชาติสนใจ มีเอเย่นต์ต่างชาติเข้ามาเสนอซื้อบิ๊กล็อต 20-30 ห้อง  โครงการล่าสุด มารุ เอกมัย ได้รับความสนใจจากเอเย่นต์ต่างชาติเช่นกัน โดยเจรจาซื้อจำนวนห้อง 40% ของโครงการ แต่บริษัทกำหนดสัดส่วนกลุ่มต่างชาติไว้ที่ 20-30% ของโครงการเท่านั้น เพราะการซื้อบิ๊กล็อตต้องให้ข้อเสนอส่วนลดมากกว่ารายย่อย และต้องการกันยูนิตขายไว้ให้ตลาดไทย ที่ตลาดบนยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง

สำหรับกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศในตลาดอสังหาฯ กลุ่มหลักมาจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เนื่องจากเห็นว่าตลาดอสังหาฯไทย โดยเฉพาะคอนโดในทำเลเมือง ยังให้ผลตอบแทนสูง 

ในธุรกิจอสังหาฯ การเลือกทำเลและจับตลาดให้ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญ  เมเจอร์ฯจับตลาดลูกค้าระดับบนเป็นรายแรกๆ  ตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ไม่มีใครกล้าเปิดโครงการ  แต่บริษัทเห็นศักยภาพตลาดบนที่ยังเติบโตได้ 

“เชื่อว่าปัญหาฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาฯจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ”