Retail Market Monitor (16 ส.ค.60)

Retail Market Monitor (16 ส.ค.60)

ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว แต่ถูกถ่วงด้วยทิศทางการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

วันนี้คาด กนง. คงนโยบายการเงินไว้ที่ระดับเดิม เรามองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้นหลังประเด็นความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีเหนือเริ่มผ่อนคลายลง โดยคาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเป็นไปในลักษณะซึมในทิศขึ้นเนื่องด้วยแรงกดดันของค่าเงินเหรียญและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าตลาดหุ้นไทยจะมีช่วงของการปรับลงที่ค่อนข้างจำกัดจากแรงหนุนของเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ซึ่งจะช่วยให้โอกาสการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและการอ่อนค่าของค่าเงินบาทยืดระยะเวลาออกไป

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1570 จุด เรามองการปรับลงเป็นจังหวะดีในการเลือกสะสมหุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย ราคาไม่แพงเกินไป และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง เก็งกำไรระยะสั้นเน้น กลุ่มเกษตร เดินเรือ ไฟฟ้า (บางตัว) การเก็งกำไรเน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ BANPU, ACAP*, CPF //ประเด็นเก็งกำไร AQUA*, TTA*

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับลดลง จากความกังวลการผลิตของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น / ราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันตามราคาน้ำมัน / ค่าระวางเรือ BDI ปิด 1,169.00 จุด (+1.21%) / ถ่านหิน (Newcastle) ปิด 94.95 เหรียญ/ตัน (-0.52%)

คง VAT 7% –ครม.อนุมัติคงภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% เพื่อพยุงกำลังซื้อและช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน พร้อมเน้นย้ำว่ายังไม่มีแนวคิดเพิ่มแวตเป็น 10%

เพิ่มสิทธิลูกจ้าง – ครม.อนุมัติแก้ไข พ.ร.บ. คุมครองแรงงานโดยเพิ่มสิทธิให้ลูกจ้าง กรณีนายจ้างผิดสัญญาค่าจ้าง กำหนดให้นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี พร้อมปรับอัตราค่าชดเชย 400 วัน จากเดิม 300 วัน หากนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์และสินค้าฟุ่มเฟือย

FDI จีน – กระทรวงพาณิชย์จีนรายงาน ปริมาณการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปรับลดลง 1.2% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.8542 แสนล้านหยวน (7.279 หมื่นล้านดอลลาร์) ขณะเดียวกัน ปริมาณการลงทุนโดยตรงภายนอกประเทศ (ODI) ของบริษัทจีนนอกภาคการเงิน ดิ่งลง 44.3% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สู่ระดับ 5.72 หมื่นล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลออกมาตรการจำกัดการลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้การลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ วัฒนธรรม กีฬา และบันเทิง ลดลงอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว

ประเด็นติดตาม: 16 ส.ค. – ประชุมกนง. (คาดคงดอกเบี้ย) / 25 ส.ค. – ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว / 31 ส.ค. - ธปท.ผลักดันมาตรฐานกลาง QR code เพื่อการชำระเงิน /16 ก.ย. ภาษีสรรพสามิตใหม่

แนวรับ 1550-1555/แนวต้าน : 1565-70 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)


หุ้นแนะนำ

• BANPU (24) : รายงานผลการดำเนินงานแข็งแกร่งตามคาด ทั้งจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้นในปีนี้ และธุรกิจไฟฟี้ท่ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสาที่ลาว ทำการผลิตได้ราบรื่น จึงมีชั่วโมงจ่ายไฟที่เพิ่มขึ้น

• ACAP* (24) : คาดผลการดำเนินงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพอร์ตสินเชื่อครึ่งปีที่ 5 พันล้านบาท ใกล้เคียงเป้าทั้งปีที่ 6 พันล้านบาท ทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการขึ้น

• CPF (36) : ราคาปรับลดลงจนอยู่ในจุดที่น่าสนใจ คาดไตรมาส 2/60 แย่สุด แต่ครึ่งปีหลังแนวโน้มฟื้นจากสถานการณ์หมูในเวียดนามดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบถูก ขณะที่ตัวเลขการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุด

• ประเด็นลงทุน: AQUA* (คาดผลการดำเนินงานได้อานิสงค์จากกำไรของ EPCO ที่ดีขึ้นจากการรับรู้รายได้ค่าไฟจากโรงไฟฟ้า SST) / TTA* (ดัชนี BDI เข้าสู่ช่วง high season และคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว)