จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้า ที่ผ่านได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งพบวัตถุระเบิดถูกนำมาวางทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้าน ของนายบุญชู เพชรวิจิตร เจ้าของบุญชูโต๊ะจีน เลขที่ 15/6 หมู่ที่ 3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดสังหารชนิด MK2 ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งาน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทองได้เก็บกู้ก่อนนำไปทำลาย โดยสอบถามนายบุญชู เบื้องต้นนายบุญชูปักใจเชื่อว่าน่าจะเป็นการข่มขู่ของแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ ตนเองเป็นหนี้อยู่ 20,000 บาทและเพิ่งไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทองเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ก่อนที่จะพบระเบิดวางอยู่ รายละเอียดตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (15 ส.ค. 60) ที่สถานีตำรววจภูธรเมืองอ่างทอง พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบในที่เกิดเหตุ คาดว่าลูกระเบิดที่พบนั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการข่มขู่ของแก๊งทวงหนี้นอกระบบ เนื่องจากจุดที่พบลูกระเบิดนั้น อยู่ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากตัวบ้านเกือบ 100 เมตร และอยู่ในพื้นที่เปียกน้ำ ซึ่งหากจะข่มขู่จริงอาจจะมีอีกหลายจุดที่สามารถนำไปวางได้ แต่ในแนวทางการสอบสวนก็ต้องหาความขัดแย้งและหาที่มาที่ไปของลูกระเบิดลูกนี้ เนื่องจากลักษณะระเบิดที่พบนั้นอยู่ในกล่องที่บรรจุอย่างดี รวมถึงสลักระเบิดมีหมายเลขกำกับอยู่ สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของลูกระเบิดได้
ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า ไม่ว่าแนวทางการสอบสวนจะเกี่ยวข้องกับการข่มขู่ของแก๊งทวงหนี้นอกระบบหรือ ไม่ แต่เนื่องจากข้อมูลจากผู้เสียหายพบว่ามีการข่มขู่จากแก๊งหนี้นอกระบบซึ่งอาจ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับการพบระเบิดลูกนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบจับกุมขบวนการเงิน กู้นอกระบบโดยได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เข้มงวดและดำเนินการจับกุมให้เห็นเป็น รูปธรรมทันที ส่วนกรณีเรื่องการพบลูกะเบิดก็ให้ สภ.เมืองอ่างทอง เจ้าของพื้นที่สืบสวนหาข่าวเพื่อหาที่มาของเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อไป
