แม่ถ่ายคลิปผูกคอลูก วอนสังคมหยุดด่าสำนึกแล้ว

จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิป เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ความยาว 01.07 นาที โดยในคลิปปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่งก่อนตัดพ้อ “มึงดูความทรมานของมึงนะพี่โจ สำหรับคนที่มึงแคร์คนอื่นมาก” ก่อนจะอุ้มเด็กชายที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกของหญิงสาวคนดังกล่าวขึ้นมา โดยที่คอเด็กมีเชือกผูกอยู่ด้านหลัง จากนั้นหญิงสาวในคลิปได้ยกเชือกลอยขึ้น จนทำให้เด็กร้องกรี๊ดดังลั่นและไอออกมาด้วยอาการคล้ายคนหายใจไม่ออก ก่อนหญิงสาวคนดังกล่าวจะโยนเด็กลงกับที่นอน พร้อมบอกว่า “ มึงดู มันยังไม่ตาย กูยังเอามันไม่ตายหรอก กูจะเอามันไปตายที่อื่น รีบมารับมันไป กูบ้ากูเครียดแล้ว ไม่รับโทรศัพท์ใช่มั้ย” จากนั้นคลิปก็ตัดไปนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปออกไปในโลกโซเชียล พ.ต.ท.วรากร ไชยวงค์ สว.สส.สน.ฉลองกรุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุง ได้เดินทางไปตรวจสอบภายในอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอยฉลองกรุง 39 (บำรุงสวัสดิ์) แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นห้องพักของหญิงสาวที่ปรากฏในคลิป จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าหญิงคนดังกล่าวพักอยู่ห้องเลขที่ 105 ชั้น 1 เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้เปิดประตู จากการตรวจสอบพบตัวน.ส.มล (นามสมมติ) อายุ 32 ปี และ ด.ช.เอ ( นามสมมุติ ) อายุ 1 ปี 10 เดือน หญิงสาวและเด็กที่ปรากฏในคลิป อยู่ภายในห้อง 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งคู่มาทำการสอบสวนที่สน.ฉลองกรุง โดยมีพ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ พรใหญ่พงศ์ รอง ผกก.ป.สน.ฉลองกรุง ร่วมซักถาม

จากการสอบถามผู้ที่พักอาศัยอยู่ตึกดังกล่าว เล่าว่า น.ส.มล พักอยู่กับสามีและลูกอีก 2 คน ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่ตึกนี้ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนเด็กที่อยู่ในคลิปเป็นลูกชาย ของน.ส.มล ส่วนลูกสาวอีกคน แม่ของน.ส.มล ได้มารับไปอยู่ด้วยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่พักอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์ ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเห็นว่าทำรุนแรงขนาดนี้จะตีบ้างก็ตอนที่เด็กซนเท่านั้น

ต่อมาพ.ต.ต.สามารถ กลิ่นเกล้า สารวัตร ( สอบสวน ) สน.ฉลองกรุง และเจ้าหน้าที่ พม.ร่วมพูดคุยเจรจากับเพื่อหาทางช่วยเหลือ ภายหลังการพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง น.ส. มล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ตนได้อัดคลิปวีดีโอ เพื่อจะส่งต่อไปให้สามี เนื่องจากเครียดจากการทำงาน ซึ่งตนขายเสื้อผ้าออนไลน์ ช่วงนี้ขายของได้น้อย ประกอบกับน้อยใจที่สามีไม่สนใจ ทำแต่งานไม่สนใจครอบครัว ซึ่งวันนี้นัดกับสามีจะให้พาไปซื้อของแต่สามีบอกควงเวรให้เพื่อนลาไม่ได้ ประกอบกับตนกลัวว่าจะไปมีหญิงอื่น ที่ทำไปก็เพื่อประชดสามี จากนั้นได้ส่งคลิปไปให้สามี และนอนหลับไปจนพี่สาวได้โทรศัพท์มาหา ว่าที่ทำไปนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เพราะแม่ของสามีได้นำคลิปวีดีโอดังกล่าวไปโพสต์ลงโซเชียล 

“ฉันยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูก และเหตุการณ์นี้ ถือเป็นบทเรียนแก่ชีวิต ที่ทำลงไปเมื่อเห็นลูกเจ็บ ตัวเองก็เจ็บเช่นกัน พร้อมวอนสังคมหยุดต่อว่า ด่าทอ และข่มขู่เธอเพราะเธอสำนึกในสิ่งที่ทำแล้ว” น.ส.มล ระบุ 

น.ส.มล เปิดเผยว่า ตนขายเสื้อผ้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งวันนี้เงินไม่มีหมุน จึงทำให้ตนเครียด ที่เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ เพราะตนนัดกับแฟนว่าจะไปซื้อผ้าที่ตลาดคุ้มเกล้าคลองถม แต่คู่กะของสามีกลับบ้านก็เลยให้แฟนควงกะให้ ตนจึงบอกกับสามีว่าปฏิเสธไม่ได้หรือ  เพราะครอบครัวต้องสำคัญกว่า แฟนจึงบอกกลับมาว่าปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะรู้อยู่ว่าถ้าไม่ทำจะโดนไล่ออก ตนจึงบอกไปว่าไล่ออกก็ไล่เพราะเรื่องแค่นี้เราก็ทำตามกะของเรา เราไม่ว่างเราก็บอกเขาได้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน ตนโทรไปหาสามีประมาณ 50 สายก็ไม่ยอมรับสาย ส่งข้อความเฟซบุ๊กเขาอ่านแต่ไม่ตอบ ตนจึงยิ่งเครียดเพราะตนไม่มีเงิน ต้องแบกหน้าไปยืมเงินเจ้าของตึก ครั้งแรกเฮียก็ไม่ให้ยืมเพราะเฮียไม่ได้ปล่อยให้กู้ ตนจึงไปขอร้องให้ช่วยเหลือเพราะต้องการนำเงินไปลงทุนผ้าให้พอมีเงินหมุนมาใช้จ่ายในครอบครัว

น.ส. มล เปิดเผยต่อว่า ความคิดตนอย่างไรก็ได้ให้ลูกต้องมีนมกิน แฟนต้องมีเงินไปทำงานเพราะเงินเดือนแฟนออกเป็นเดือนได้รับมาเงินก็ใช้จ่ายไปหมดในค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั้งค่าห้อง เงินที่ยืมคนอื่นมาแต่ละคนคนละ 200-300 บาทก็หลายคนที่ตนไปยืมมาใช้จ่าย ตนอยากให้เขาแคร์ครอบครัวกว่าแคร์คนอื่น เพราะอดก็อดด้วยกัน กินก็กินด้วยกัน ตนจึงปรึกษาแม่ว่าต่อไปนี้หนูจะไม่กระตือรือร้นแล้วคืออดก็อด ไม่มีก็ไม่มี จังหวะแม่มาหาตนช่วงเช้าหลังแฟนส่งคลิปที่หนูส่งไปให้แฟนส่งต่อให้พี่สาวตน พี่สาวกับแม่อยู่ไม่ได้ก็เลยมาหามาพูดคุยให้กำลังใจ

น.ส. มล เปิดเผยอีกด้วยว่า รู้ว่าลูกเจ็บตนก็เจ็บ ครั้งแรกจะทำให้ตัวหนูตายเองด้วยซ้ำ เขาคิดอย่างไรไปส่งให้แม่สามี เขาไม่ชอบหนูเท่าไหร่ แม่สามีเอาไปโพสต์ในเพจ ตนไม่ได้ไลฟ์สดในโซเชียลเพราะอยากดัง จากนั้นหนูก็หลับไป ไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่ขนาดนี้ จากนั้นจึงโทรหาสามีว่าทำอะไรลงไป ทั้งนี้ตนไม่อยากสร้างครอบครัวใหม่ ไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย

“ขอโทษจริงๆ หนูไม่ได้ตั้งใจ ใครไม่เป็นหนูจุดนี้ไม่รู้หรอกว่าหนูเครียดขนาดไหน ไม่ได้ตั้งใจทำน้องเจ็บต้องการแค่ประชดแฟนเท่านั้น” น.ส. มล ยกมือไหว้กล่าวขอโทษร้องไห้ทั้งน้ำตา

ขณะที่ พ.ต.ท.สามารถ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับ น.ส.นฤมล แต่อย่างใด เนื่องจากเห็นเวลาเรื่องความไม่เข้าใจในครอบครัวและทางสามีก็ไม่ได้มีการแจ้งความเอาเรื่อง หากมีการตั้งข้อหาที่รุนแรงก็จะมีปัญหาตามมาอีก หากแม่ต้องติดคุกและลูกใครจะดูแล หากจะมีการแจ้งข้อหาก็เป็นเพียงข้อทำร้ายร่างกาย แต่ไม่เป็นอันตรายแก่กาย จากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาสอบสวน ดูสภาพจิตใจอีกครั้ง ว่าจะสามารถให้เด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวได้หรือไม่

ด้านนายปรีชา โชคลาภ พนักงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว กรุงเทพมหานคร ( บพด.กมม. ) กล่าวว่า หลังจากนี้จะส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่รพ.ลาดกระบัง เพื่อหาดูว่ามีการบาดเจ็บที่ใดบ้าง แต่ในเบื้องต้นเท่าที่ดูตามร่างกายไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลที่เป็นอันตรายใดๆ หลังจากนั้นก็เชิญคนครอบครัวมาพบสหวิชาชีพ รพ.รามาฯ เพื่อพูดคุย พร้อมลงพื้นที่ไปดูสภาพความเป็นอยู่ว่ามีความเดือดร้อนในเรื่องใดบ้าง ในส่วนของเรื่องการดูแลเด็กได้ให้ทางแม่เป็นผู้ดูแลต่อไปโดยได้ให้พี่สาวและแม่น.ส.มลเป็นคนช่วยกันดูแล เนื่องจากเห็นว่าทางแม่เด็กไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายลูกตัวเองให้ถึงแก่ความตายจริงๆ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะทำทัณฑ์บนไว้ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กพ.ศ.2546 เพื่อไม่ให้น.ส.มลกระทำเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก