บราเดอร์ขยายฐานลูกค้าเจาะตลาดองค์กรปั๊มยอด

นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ในปีงบประมาณ 2560 บราเดอร์ ประเทศไทย  มั่นใจว่าจะผลักดันธุรกิจเติบโตตามเป้าหมาย 5% ซึ่งไตรมาสแรก (เม.ย.-มิ.ย.) ทำยอดขายเติบโตกว่า 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 

บราเดอร์ ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกับบราเดอร์ทั่วโลก มุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กร ปรับปรุงระบบการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และส่งเสริมการเรียนรู้ของบุคลากรเพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

การขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังธุรกิจองค์กรเพิ่มขึ้น บริษัทคาดว่าจะทำให้รายได้จากกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กรมีสัดส่วน 20% ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 อยู่ที่ 13%  ส่วนที่เหลือเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มโซโห โดยใช้กลยุทธ์การนำเสนอผ่านระบบโซลูชั่น และการทำสัญญาการค้ากับกลุ่มธุรกิจองค์กร

นายโทชิคะสึ โคะอิเกะ ประธานและกรรมการบริษัทในกลุ่มบราเดอร์ กล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2559 (เม.ย.2559 - มี.ค.2560) มียอดขายของบราเดอร์ทั่วโลก 6,400 ล้านดอลลาร์ โดยทวีปอเมริกา มีสัดส่วนรายได้สูงสุด 31.6%  ตามด้วย ยุโรป 25.1%  เอเชียและอื่นๆ 24.6%  เฉพาะญี่ปุ่น 18.6%  

แม้ผลสำรวจของ ไอดีซี จะสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมและเทรนด์ของตลาดเครื่องพิมพ์ โนโน เลเซอร์และ คัลเลอร์ เลเซอร์ทั่วโลกว่าไม่มีการเติบโต แต่บราเดอร์กลับมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดรวม

โดยตลาดเครื่องพิมพ์ โมโน เลเซอร์จาก 10% ในปี 2554 เพิ่มเป็น 15% ในปี 2559  ตลาดเครื่องพิมพ์คัลเลอร์ เลเซอร์ “บราเดอร์” มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 8% ในปี 2554 เป็น 12% ในปี 2559 โดยไอดีซี คาดการณ์ว่าตลาดรวมเครื่องพิมพ์จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา จาก 46% จะเพิ่มขึ้นเป็น 51% ในปี 2564 ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการเติบโตของบราเดอร์ เนื่องจากบราเดอร์มีการทำตลาดไปยังกลุ่มประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาด้วย ซึ่งการทำตลาดในส่วนของเครื่องพิมพ์จะสอดคล้องไปตามแผนการดำเนินงานของบริษัทในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มธุรกิจองค์กรมากขึ้น

บราเดอร์ ประเทศไทยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินธุรกิจครบ 20 ปี และมียอดขายเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ผลการดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ โดยมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว นอกจากนี้ ยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาด โมโน เลเซอร์ มัลติ-ฟังก์ชัน อยู่ที่ 34.6% และเป็นอันดับ 2 ในตลาด