'จีพีเอสซี' กำไรไตรมาส 2 โต19%

'จีพีเอสซี' กำไรไตรมาส 2 โต19%

"โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่" เผยไตรมาส2กำไรโต19%จากปีก่อน อานิสงส์เน้นบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) GPSC เผยไตรมาส 2 ปี 2560  โชว์ผลกำไรอยู่ที่ 815 ล้านบาท โต 19% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แจงปัจจัยหนุน บริษัทเน้นบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ และโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจน 2หรือ BIC 2 ที่ GPSC ถือหุ้นอยู่ 25% สามารถจ่ายไฟได้ตามแผน ย้ำแผนลงทุนระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ศึกษาตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง

ดร.เติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,459 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 1 ปี 2560  แต่ด้วยการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และลูกค้าของโรงไฟฟ้าได้กลับมาดำเนินการตามปกติ หลังจากที่มีการหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อน ทำให้ในไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% หรือ 65 ล้านบาท จากไตรมาส 1ปี 2560  

ในขณะที่ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Q2/2559) บริษัทมีรายได้ลดลง 94 ล้านบาท คิดเป็น 2% เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมมีปริมาณลดลงเล็กน้อย ตามปริมาณการใช้ของภาคอุตสาหกรรม แต่บริษัทยังคงมีกำไรเพิ่มขึ้น 19% หรือเพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท จากไตรมาส 2 ปี 2559 ด้วยปัจจัยทางด้านราคาขายที่ปรับตัวดีขึ้นจากส่วนของอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) เป็นต้น

“ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ในปีนี้ บริษัทจออุปสรรคมากมาย ทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ BOI ที่เริ่มหมดอายุ อีกทั้งบริษัทในกลุ่มมีลูกค้าหยุดซ่อมบำรุง บริษัทก็ยังสามารถทำกำไรไม่น้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีขึ้นของทรัพย์สินเดิม และครึ่งปีหลังบริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจน 2 หรือ BIC 2 ที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อเดือน มิ.ย. ทำให้ในครึ่งปีหลังสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มที่ รวมถึงโครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 อีก 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าไออาร์พีซีคลีน พาวเวอร์ ระยะที่ 2 และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์อิจิโนเซกิโซล่าร์ เพาเวอร์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ในปี 2560 นี้ บริษัทจะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 เมกะวัตต์ตามแผน ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญในการเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืน และเน้นการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่างเท่าเทียมกัน” ดร.เติมชัยกล่าว