'พักชำระหนี้-ลดดบ.' เยียวยาลูกหนี้น้ำท่วม

'พักชำระหนี้-ลดดบ.' เยียวยาลูกหนี้น้ำท่วม

"เอสเอ็มอีแบงก์-ธอส." เร่งออกมาตรการพักชำระหนี้-ลดดอกเบี้ย-ปลอดดอกเบี้ย เยียวยาลูกค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งภาคอีสานและเหนือ ขณะที่รัฐบาลเตรียมเปิดศูนย์ระดมทุนวันนี้

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน ภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่จ.สกลนคร และนครพนม ที่น้ำยังท่วมพื้นที่เกษตรและพื้นที่ชุมชนในตัวเมือง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่าธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ มีมาตรการความช่วยเหลือ 2 มาตรการ 1. การพักชำระหนี้ สำหรับเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term loan) พักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ส่วนสัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note : P/N) ออกมาตรการช่วยเหลือพักชำระดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน

มาตรการที่ 2. วงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการ ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเป็นเงินทุนฟื้นฟูและหมุนเวียนในกิจการ ลูกค้าเดิมของธนาคารระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 1 ปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อราย ดังนี้ 1.ลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 5 แสนบาท 2.ลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติรวมมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท 3.ลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติมากกว่า 5 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4.99% ต่อปีตลอดอายุสัญญา ส่วนหลักประกันให้พิจารณาหลักประกันเดิมก่อนและสามารถใช้หลักประกัน บสย. ค้ำประกัน เฉพาะมาตรการที่เพิ่มไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยวงเงินกู้รวมทั้งโครงการไม่เกิน 15 ล้านบาท

นายมงคล กล่าวว่าขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่สาขาในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่น้ำท่วม และที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ลูกค้าธนาคารต่อไป อีกทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว ธนาคารจะเร่งขออนุมัติมาตรการเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยมีเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เร่งด่วน

ธอส.ออกมาตรการเยียวยาลูกหนี้

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรอบวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สกลนคร กรณีลูกค้าเดิมของธนาคารที่บ้านได้รับความเสียหาย สามารถขอลดภาระดอกเบี้ยเหลือเพียง 0% ต่อปี นาน 3 เดือนแรก พร้อมจัดทำสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3% ต่อปี นาน 3 ปี สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่บ้านได้รับความเสียหายสามารถกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม่เพื่อปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม และกู้ซ่อมแซมได้นั้น

นอกจากนี้ ยังได้ออกมาตรการประนอมหนี้ 4 มาตรการ 1 .ลูกหนี้ที่หลักประกัน(ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร)ได้รับความเสียหาย และกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ ให้ลูกหนี้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 4 เดือนแรกและไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวด ไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

2. ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ลูกหนี้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน เมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

3. ลูกหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดเวลาที่คงเหลือตามสัญญากู้ และ4 กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น

รัฐเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกประกาศเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รับทราบข้อมูลสภาพอากาศ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ ปภ. และอาสาสมัครเตือนภัย แจ้งข่าวแก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว ตามนโยบายประเทศไทยปลอดภัย หรือ Safety Thailand ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ได้บูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อระดมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต เข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มอีกที่ด้วย

ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้(31ก.ค.) จะเรียกประชุมคณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ที่เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือพร้อมสั่งการให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยตั้งแต่วันนี้้เป็นต้นไป โดยรัฐบาลเปิดรับบริจาคเงินผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0