ครอบครัวแม่เด็กวัย 7 ขวบ เชื่อตำรวจจับคนร้ายได้ กำหนดเผา 3 ส.ค. แต่หากจับคนร้ายไม่ได้จะเก็บศพโดยไม่มีกำหนด เจ้าหน้าที่พุ่งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว เริ่มได้เบาะแสคนร้ายแล้ว คาดคงมีข่าวดีภายใน 1-2 วันนี้
( 27 กรกฎาคม 2560) ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุฆ่าทุบหัวและรัดคอนางสาวลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33ปี ชาวบ้าน ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เสียชีวิตคาห้องน้ำของโรงเรียนบ้านหนองคล้า หมู่ที่ 7 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ขณะพาลูกชายวัย 7 ขวบ ไปเล่นฟุตบอลที่สนามหญ้าของโรงเรียน ระหว่างรอลูกได้เดินไปเข้าห้องน้ำหลังโรงเรียน แล้วถูกคนร้ายลงมือทำร้ายทุบศีรษะและรัดคอจนเสียชีวิต จนลูกชายเล่นบอลเสร็จเห็นแม่หายตัวไปไม่รับกลับบ้าน จึงร้องไห้ตามหา จนชาวบ้านและนักการภารโรงช่วยกันตามหา จนพบกลายเป็นศพภายในห้องน้ำของโรงเรียนดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่วนที่บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 203 หมู่ที่ 21 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ บ้านของผู้ตาย หลังจากทางครอบครัวได้นำศพกลับจากการผ่าพิสูจน์เพื่อเก็บหลักฐานและหาสาเหตุการตาย ก็ได้นำศพมาตั้งประกอบพิธีทางศาสนาพบว่ามีญาติๆและคนรู้จักเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจไม่ขาด ต่างเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะในพื้นที่ไม่เคยเกิดเรื่องร้ายแรงมาก่อน
นายจำลอง จินดาแก้ว อายุ 62 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า พ่อรู้สึกหนักใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ เพราะลูกสาวแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ขณะนี้ทราบจากลูกๆว่า ทางตำรวจพอจะได้เบาะแสของคนร้ายแล้ว จึงอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ทางครอบครัวกำหนดจะเผาศพลูกสาว ( น.ส.ลัดดา) ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ แต่หากทางตำรวจยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ ทางญาติก็พร้อมจะเก็บศพไว้รอจนกว่าทางตำรวจจะจับกุมคนร้ายให้ได้
ด้านนายอภิชัย อภิบาล สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผลการผ่าชันสูตรพลิกศพของแพทย์รพ.สงขลานครินทร์ พบว่าภรรยาเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย โดยมีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ กะโหลกร้าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่ต้องกังวลจะจัดการคดีนี้ให้ถึงที่สุด ซึ่งตนเองก็มั่นใจกับคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าความยุติธรรมมีจริง แต่การที่ภรรยามาจากไปอย่างกะทันหัน ตนเองตั้งตัวไม่ทัน มืดมนกับสาเหตุการตาย แต่ก็ต้องทำใจให้ได้ เพราะยังมีลูกต้องดูแล
ส่วนหากถึงวันที่ 3 สิงหาคมแล้วทางตำรวจยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ ก็จะปรึกษากันในครอบครัวว่าจะเอาอย่างไร แต่อาจต้องรอให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้เสียก่อน จึงจะทำพิธีเผา ขณะนี้ตนเองเป็นห่วงสภาพจิตใจของลูก เพราะเขาถามหาแม่ ตนเองก็ได้แต่บอกว่าไม่ไปบนฟ้าแล้ว แต่หากเวลาผ่านไปมากกว่านี้ ห่วงว่าลูกจะถามและคิดถึงแม่หรืออาจซึมเศร้าได้ เพราะเขาติดแม่มาก คงสงสัยว่าแม่หายไปไหน
ซึ่งหากมีจิตแพทย์มาคุยกับน้อง อยากให้เขามองโลกในแง่ดี อธิบายว่าแม่หายไปไหน อยากให้เขาดูแลตัวเองได้ ส่วนหลังจากนี้จะให้ลูกอยู่เรียนหนังสือกับญาติพี่น้องฝ่ายภรรยา เพราะอยู่บ้านใกล้ชิดกัน ส่วนตัวเองจะไปทำงานที่เกาะลันตา ส่งเงินมาให้ และกลับมาเยี่ยมเป็นครั้งๆ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียน สถานที่ราชการ มันสะเทือนขวัญและกระทบกับชื่อเสียงของโรงเรียน
ส่วนบรรยากาศที่ สภ.เขาวิเศษ พบว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวน เร่งทำงานอย่างเต็มที่ มีการเรียกประชุมวันละ 2 รอบ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและหลักฐานที่ได้มา โดยมีการเรียกสอบพยานบุคคลแวดล้อมและนำตัวเก็บดีเอ็นเอไปแล้ว 8-9 ปาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าจะมีข่าวดีภายใน 1 – 2 วันนี้
